นักวิชาการ-นายแบงก์ ประเมินแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์ในช่วงครึ่งหลังปี 53 มีโอกาสปรับขึ้นในอัตรา 0.25-0.50% ตามการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)หลายแห่งประเมินว่าคณะกรรมการนโยบายการเงินจะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของปีนี้ในเดือน ส.ค.ขึ้นกับการประเมินแนวโน้มอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ รวมถึงแรงกดดันต่างๆ
อย่างไรก็ตาม มีความเห็นที่สอดคล้องกันว่า จากการที่สภาพคล่องในระบบยังสูง ดังนั้น คงจะไม่เห็นธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นดอกเบี้ยไปก่อนดอกเบี้ยนโยบายอย่างแน่นอน แต่อาจมีการนำเสนอเงินฝากรูปแบบพิเศษที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราปกติออกมามากขึ้น
สถาบัน ดอกเบี้ยนโยบาย ดอกเบี้ยธนาคารพาณิชย์ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย 0.75% 0.50% ฝ่ายวิจัย ธ.กรุงเทพ 0.50% 0.25-0.50% สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 0.25-0.50% - สถาบันวิจัยนครหลวงไทย 0.50 % 0.50%นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข ผู้จัดการฝ่ายวิจัยการเงินการธนาคาร ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์ครึ่งปีหลังมีโอกาสปรับขึ้นอีกอย่างมาก 0.50% ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจของประเทศ การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ ธนาคารแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)สภาพคล่องในระบบ การปล่อยสินเชื่อ และการแข่งขันของธนาคารพาณิชย์
ทั้งนี้ คาดว่า กนง.จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงไตรมาส 4/53 และทั้งปีคาดว่าจะปรับขึ้นอย่างมาก 0.75% แต่ขึ้นกับวิกฤติเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มเศรษฐกิจเอเซียอาจจะเห็นการขยายตัวในอัตราชะลอลง ขณะที่มองว่าจากตัวเลขเศรษฐกิจในประเทศยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี แม้จะมีปัญหาการเมืองแต่ได้คลี่คลายลงแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลดีจากเศรษฐกิจโลกที่ดี ทำให้การส่งออกขยายตัวได้ดี และส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
“การขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์พาณิชย์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นว่าแต่ละแบงก์มีการเสนอการออมเงินที่มีดอกเบี้ยจูงใจ แต่การปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นการทั่วไปคงขึ้นอยู่กับการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติ และการแข่งขันระหว่างธนาคารพาณิชย์จะรุนแรงหรือไม่ สภาพคล่องของแต่ละแบงก์ และการแข่งขันปล่อยสินเชื่อ" นางสาวเกวลิน กล่าว
ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา สภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มปรับลดลง ส่วนหนึ่งอาจมาจากการขยายสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นจากปี 52 ขณะที่ธนาคารแต่ละแห่งยังไม่มีการปรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อในปี้นี้ ดังนั้น จึงต้องติดตามแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในช่วงครึ่งปีหลัง ที่อาจเห็นการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น ตามการเติบโตของเศรษฐกิจ
คาดการณ์ว่าหากธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นดอกเบี้ย อาจจะเป็นการปรับขึ้นทั้ง 2 ขาคือทั้งเงินฝากและเงินกู้ และอาจเป็นการปรับขึ้นหลังจาก ธปท.ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแล้ว เชื่อว่าไม่มีโอกาสที่จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อน ยกเว้นกรณีมีการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากพิเศษ ซึ่งทำเพื่อรักษาฐานลูกค้ากรณีที่ผลิตภัณฑ์เดิมครบกำหนด
นายพงศ์พัฒน์ คุโรวาท ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิจัย ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า แนวโน้มที่ดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์ จะปรับขึ้นภายในช่วงครึ่งหลังปี 53 มีน้อย โดยขึ้นอยู่กับการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท.แต่อาจจะเห็นการเสนอดอกเบี้ยพิเศษมากกว่า เช่นการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากดอกเบี้ยก้าวกระโดด ของธนาคารบางแห่ง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัย คาดว่า ปีนี้ กนง.มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายไม่เกิน 0.50% และจะเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกของปีในช่วงเดือน ส.ค.เนื่องจากขณะนี้อัตราดอกเบี้ยอยู่ห่างจากอัตราเงินเฟ้อค่อนข้างมาก แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของ ธปท.ที่จะประเมินสถาการณ์ว่าต้องการให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างมั่นคง หรือต้องการดูแลเสถียรภาพเศรษฐกิจด้วย
ทั้งนี้ หาก กนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% มีความเป็นไปได้ที่ ธนาคารพาณิชย์ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก-เงินกู้ ตามในอัตรา 0.25-0.50% ขึ้นอยู่กับการปล่อยสินเชื่อ และสภาพคล่องของธนาคารแต่ละแห่ง ซึ่งคาดว่าธนาคาพาณิชย์ขนาดเล็ก อาจมีแรงกดดันให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อน
“หากดูแล้วตอนนี้แบงก์พาณิชย์คงยังมีจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ย หรือถ้าขึ้น คงขึ้นไม่มาก ถ้าอาร์พีขึ้น 0.50% แบงก์คงจะปรับขึ้นดอกเบี้ยแต่ แต่คงไม่มาก เพราะแบงก์จะใช้วิธีระดมเงินวิธีอื่นมากกว่า"นายพงศ์พัฒน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม มองว่าอัตราดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิช ที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ไม่สร้างแรงจูงใจให้ประชาชนมาฝากเงินมากนัก แต่จะหันไปออมเงินในรูปแบบการลงทุนในพันธบัตร ตราสารหนี้ กองทุนรวมต่างๆ ซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า และมีความเสี่ยงการลงทุนไม่แตกต่าง
นักวิเคราะห์สถาบันวิจัยนครหลวงไทย กล่าวว่า จากสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ขณะนี้ที่มีเหลือมากกว่า 3-4 แสนล้านบาท มองว่ายังไม่ได้สร้างแรงกดดันให้ดอกเบี้ยในระบบต้องมีการปรับขึ้น แต่การที่ กนง.ส่งสัญญาณที่จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเร็วขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ค.-ส.ค. ซึ่งอาจทำให้ธนาคารพาณิชย์จะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยตาม
“หากดูจากปัจจัยพื้นฐานแล้ว แบงก์น่าจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเดิมเรามองว่าแบงก์จะมีการปล่อยสินเชื่อช่วง peak สุดในครึ่งปีหลัง แต่มีปัจจัยการเมืองมากดดดัน ทำให้การลงทุนภาคเอกชนยังไม่ขยายตัวมากนัก จะมีแต่การลงทุนภาครัฐมากกว่า" นักวิเคราะห์ กล่าว
อย่างไรก็ตามสถาบันวิจัยนครหลวงไทย ประเมินว่า กนง.จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายครั้งแรกของปีนี้ในเดือน ส.ค.และคาดว่าจะเป็นการทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งปีนี้คาดว่าจะมีการปรับขึ้นรวม 0.50% จาก 1.25% มาอยู่ที่ 1.75% และคาดว่าจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์ ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามในอัตราเดียวกัน
ขณะที่นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)คาดว่าในปี 53 ดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์ มีโอกาสปรับขึ้นน้อยมาก เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินในระบบยังมีอยู่สูงถึง 1.8 ล้านล้านบาท ดังนั้น จึงไม่มีแรงกดดันที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องปรับขึ้นดอกเบี้ย
แม้ กนง.มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย โดยคาดว่าจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงไตรมาส 3-4/53 อย่างน้อย 0.25-.50% ขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่มองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. เป็นกลไกลส่งผ่านเพื่อให้อัตราดอกเบี้ยกลับคืนสู่ภาวะปกติ
“การขึ้นดอกเบี้ยของ กนง.ไม่น่าสร้างแรงกดดันให้ธนาคารพาณิชย์ต้องขึ้นดอกเบี้ยตาม เพราะตอนนี้ยังมีสภาพคล่องส่วนเกินกว่า 1.8 ล้านล้านบาท ดังนั้นปีนี้เชื่อว่าแบงก์คงยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย แต่จะปรับขึ้นในปีหน้ามากกว่า"นายเอกนิติ กล่าว