สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ก.ค.) จากแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากที่สัญญาทองคำได้ร่วงลงไปต่ำกว่าระดับ 1,200 ดอลลาร์ในการซื้อขายระหว่างวันเมื่อวันพฤหัสบดี นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรก็สร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำด้วยเช่นกัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป
สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ปรับตัวขึ้น 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,207.70 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,198.80 - 1,214 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินเดือนก.ย.ลดลง 7.1 เซนต์ ปิดที่ 17.719 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.บวก 3.90 เซนต์ ปิดที่ 2.9160 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ขยับลง 3.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,503.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 2.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 426.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์นิวยอร์กจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 5 กรกฎาคม เนื่องในวันหยุดวันชาติสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ นักลงทุนหลีกเลี่ยงการทำโพสิชั่นใหม่ๆ แต่ได้เข้ามาทำ short covering (ซื้อคืนกลับ) ก่อนตลาดปิดทำการนาน 3 วันในช่วงสุดสัปดาห์นี้
เงินดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ภายหลังมีการเปิดเผยรายงานตัวเลขจ้างงานที่น่าผิดหวัง
วานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ในเดือนมิถุนายน ปรับตัวลดลง 125,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน และแย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะลดลง 110,000 ตำแหน่ง
ตัวเลขจ้างงานที่ลดลงมีสาเหตุหลักมาจากการเลิกจ้างพนักงานชั่วคราวเพื่อการสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐ ประจำปี 2553 (Census 2010) จำนวน 225,000 ตำแหน่ง
ขณะที่การจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 83,000 ตำแหน่ง แต่น้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ บ่งชี้ว่าธุรกิจต่างๆยังคงลังเลที่จะจ้างพนักงานเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่แน่นอน
แม้อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.จะปรับตัวลดลงเหนือความคาดหมายจาก 9.7% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 9.5% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน แต่อัตราว่างงานที่ลดลงนั้น เป็นผลมาจากประชาชน 652,000 คนเลิกหางานและทำให้ไม่ถูกรวมอยู่ในกำลังแรงงาน (labor force) ซึ่งประชาชนที่ไม่หางานทำจะไม่ถือว่าเป็นผู้ว่างงาน
รายงานตัวเลขจ้างงานและอัตราว่างงานรายเดือนถือเป็นข้อมูลที่ได้รับการจับตามากที่สุดข้อมูลหนึ่งในฐานะที่เป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจของสหรัฐ อัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดสำหรับการขยายตัวอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนของเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราว่างงานสูงทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลง ซึ่งส่งผลสืบเนื่องถึงยอดค้าปลีก และเมื่อพิจารณาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่คิดเป็นสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจสหรัฐ จึงทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจะไม่แข็งแกร่งและยั่งยืน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า นักลงทุนยังคงมองว่าทองเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย ในขณะที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐอเมริกายังไม่เข้ารูปเข้ารอย