สกุลเงินในภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวในทิศทางที่อ่อนค่าลง โดยมีเงินริงกิตมาเลเซีย และรูปีของอินเดียทรุดตัวลงอย่างหนัก หลังสถาบันจัดการอุปทานระบุว่า ธุรกิจนอกภาคการผลิตของสหรัฐเดือนมิ.ย.ขยายตัวช้าที่สุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ให้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโลกยังขาดปัจจัยหนุน
ดัชนีเงิน Asia Dollar Index และดัชนี MSCI Asia Pacific Index ร่วงลงหนักสุดในรอบสัปดาห์เนื่องจากนักลงทุนนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่คาดว่าจะปลอดจากความเสี่ยงมากกว่า โดยเงินริงกิตมาเลเซียร่วงลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ยังมีความเห็นแตกต่างกันเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางในวันพรุ่งนี้
ณ เวลา 12:39 น.ตามเวลาท้องถิ่นในมาเลเซีย เงินริงกิตอ่อนค่าลง 0.3% แตะที่ 3.2160 ต่อดอลลาร์ หลังเคลื่อนไหวสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 3.1992 ต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินรูปีของอินเดียทรุดตัวลง 0.3% แตะระดับ 47.05 ต่อดอลลาร์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีที่ 47.10 ต่อดอลลาร์ และเงินเปโซของฟิลิปปินส์ตกลง 0.3% แตะที่ 46.51 ต่อดอลลาร์
ขณะเดียวกัน หม่า เจียนถัง หัวหน้าสำนักงานสถิติแห่งชาติกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนยังเผชิญกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนอยู่มาก และปัญหาต่างๆ จะยิ่งซับซ้อนมากขึ้น
ด้านเงินวอนของเกาหลีใต้แกว่งตัวผันผวนหลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และเอชเสบีซี โฮลดิ้งส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจปีนี้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ธนาคารกลางเกาหลีใต้ปรับขึ้นดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ไอเอ็มเอฟคาดว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะขยายตัวได้ 5.75% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 4.5% ขณะที่เอชเอสบีซีประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจเป็น 5.8% จาก 5.2%