นายพุทธิพงศ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 ในพื้นที่มาบตาพุด จ.ระยอง 10 โครงการ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนรวมหลายหมื่นล้านบาทว่า หลังจากที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ให้ศึกษาเพิ่มเติมรายชื่อประเภทกิจการที่อาจจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าผู้ประกอบการอาจไม่สามารถเดินหน้าโครงการได้ตามกำหนด จากเดิมที่คาดว่าจะดำเนินกิจการได้ภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากจะต้องศึกษาข้อมูลประเภทกิจการรุนแรงก่อน
อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการมีความพร้อมในการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) และผลกระทบด้านสุขภาพ(HIA)ตามมาตรา 67 วรรค 2 แบบใหม่ ซึ่งล่าสุดพบว่าใน 76 โครงการมาบตาพุด มีจำนวนสูงถึง 60 โครงการที่เดินหน้าจัดทำ HIA แบบใหม่แล้ว ดังนั้นสถานการณ์น่าจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีได้เร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภายหลังการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ออกประกาศประเภทกิจการที่อาจส่งผลกระทบรุนแรง ออกมาเพื่อเป็นแนวทางและกรอบปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67
นายพุทธิพงศ์ กล่าวว่า เพื่อช่วยเหลือโครงการลงทุนให้สามารถดำเนินการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น กระทรวงอุตสาหกรรมจึงเตรียมเสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เห็นชอบให้กระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำแนวทางปฎิบัติสำหรับภาคอุตสาหกรรมเพื่อพิจารณาเดินหน้าโครงการลงทุนในบางโครงการได้ แม้จะยังไม่มีการประกาศรายชื่อประเภทกิจการรุนแรง