สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย.และรายงานการประเมินภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 2.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,160.40 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,165 - 1,155.60 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลบ 18.50 เซนต์ ปิดที่ 17.441 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 3.9 เซนต์ ปิดที่ 3.2455 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 5.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,541.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 468.75 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.20 ดอลลาร์
สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเนื่องจากแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันอังคาร นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงหลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนมิ.ย.ร่วงลง 1.0% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.0% โดยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเป็นดัชนีวัดสถานะความแข็งแกร่งของภาคการผลิตซึ่งถือเป็น 1 ในแรงขับเคลื่อนหลักของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ
ขณะที่เฟดออกรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟดทั้ง 12 เขต ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นไปอย่างล่าช้า
กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ถือครองทองคำ 1,300.829 ตันในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ วันที่ 27 ก.ค. ซึ่งลดลง 0.913 ตันจากระดับของวันที่ 26 ก.ค.