นางสำลี บุญญาวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยข้าวปราจีนบุรี ได้ทำการปรับปรุงพันธุ์ข้าวที่มีคุณสมบัติทางเคมีที่ใกล้เคียงกับข้าวเหนียวและสามารถนำมาทดแทนข้าวเหนียวได้ เพื่อเป็นอีกทางเลือกหน่งของเกษตรกรที่เพาะปลูกข้าวเหนียว เนื่องจากสถานการณ์ข้าวเหนียวขณะนี้มีราคาค่อนข้างสูงอีกทั้งเมล็ดพันธุ์ข้าวเหนียวมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนข้าวเหนียวและลดต้นทุนการผลิตได้
โดย ศูนย์วิจัยข้าวปราจีนบุรี ได้ทำการปรับปรุงพันธุ์ข้าวเจ้าหอมน้ำลึกสายพันธุ์ PCR89151-27-9-155 ซึ่งได้จากการผสมพันธุ์ระหว่างข้าวสายพันธุ์ PCRBR83012-267-5 (แม่) เป็นข้าวพันธุ์ผสมที่ได้จากคู่ผสมระหว่างหอมนายพลกับ IR46 และพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (พ่อ) เมื่อปี 2532 ข้าวเจ้าหอมน้ำลึกสายพันธุ์นี้เป็นข้าวไวต่อช่วงแสง ทนน้ำท่วมได้ปานกลางเหมาะสมกับสภาพนาลุ่มน้ำลึกตั้งแต่ 50-100 เซนติเมตร ออกดอกประมาณวันที่ 25 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน เมล็ดมีคุณสมบัติทางเคมี โดยมีปริมาณอมิโลสต่ำ (15.71%) อุณหภูมิแป้งสุกต่ำความคงตัวของแป้งสุกอ่อน (80 มม.) อัตราการยึดตัวของข้าวสุก 1.57 ข้าวสุกนุ่มเหนียวและมีกลิ่นหอม
สำหรับข้าวสายพันธุ์นี้ นอกจากใช้บริโภคโดยตรงแล้ว ศูนย์วิจัยข้าวปราจีนบุรี ได้นำข้าวเจ้าหอมสายพันธุ์นี้มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตามปกติต้องทำจากข้าวเหนียว ได้แก่ ข้าวเหนียวเปียก พบว่าสามารถใช้ข้าวสายพันธุ์นี้มาแทนข้าวเหนียวได้ถึง 100% โดยทำจากข้าวเจ้าเปียกทรงเครื่องจะมีลักษณะผลิตภัณฑ์เช่นเดียวกับข้าวเหนียวเปียก นอกจากนี้ยังสามารถนำไปทำข้าวต้มมัด/ข้าวต้มผัดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย