อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวแสดงความคิดเห็นผ่านรายการ "Meet the Press" ของสถานีโทรทัศน์ NBC ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยรอบสอง หากตลาดอสังหาริมทรัพย์หดตัวรุนแรง
"หากตลาดอสังหาริมทรัพย์และราคาบ้านในสหรัฐหดตัวรุนแรง ก็อาจจะฉุดเศรษฐกิจให้กลับเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง ราคาบ้านเป็นหนึ่งในมาตรวัดสถานะทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงขณะนี้ ราคาบ้านยังคงชะลอตัวลง หากสถานการณ์เช่นนี้ยังคงยืดเยื้อต่อไป ก็อาจส่งผลให้เศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะชะงักงัน" กรีนสแปนกล่าวตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2553 ของสหรัฐ ขยายตัวในอัตรา 2.4% ต่อปี ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อทียบกับจีดีพีไตรมาสแรกที่ผ่านการทบครั้งใหม่ว่าขยายตัว 3.7% และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.5% ต่อปี โดยตัวเลขการใช้จ่ายส่วนบุคคล ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 70 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ ขยายตัวเพียง 1.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ขยายตัวได้ถึง 1.9%
"หากราคาบ้านยังคงชะลอตัว หรือย่ำฐานทรงตัว ตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยรวมของสหรัฐก็จะเผชิญวิกฤตรุนแรง ทั้งนี้ ราคาบ้านหดตัวลงไปแล้ว 5 - 8% จนถึงขณะนี้ ประกอบกับอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งทำให้กลุ่มผู้ซื้อบ้านเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ยากมากเนื่องจากสถาบันการเงินกังวลว่ากลุ่มผู้ซื้อจะผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ จำนวนบ้านที่ถูกยึดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะยิ่งฉุดรั้งสถานการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้ย่ำแย่ลงไปอีก" กรีนสแปนกล่าวสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านเดี่ยวในสหรัฐลดลงในไตรมาสแรก เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลหมดอายุลง โดยดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองทรงตัวในเดือนมี.ค. ขณะที่ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศร่วงลง 3.2% ในไตรมาสแรก หลังจากลดลง 1% ในไตรมาส 4 สำนักข่าวซินหัวรายงาน