สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงใกล้แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.เมื่อเทียบกับเงินเยนในช่วงเช้าวันนี้ ท่ามกลางสัญญาณบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐขาดปัจจัยหนุน และหลังจากที่อลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจกลับเข้าสู่ภาวะถดถอยรอบสอง หากตลาดอสังหาริมทรัพย์หดตัวรุนแรง
โดยดัชนีเงินดอลลาร์ปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตเดือนก.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะชะลอตัวลง และจะเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่บ่งชี้ว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25% ต่อไป
ส่วนสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ที่ซื้อขายกันในตลาด หลังจากที่เมื่อวานนี้ จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตประจำเดือนก.ค.ที่ขยายตัวเหนือระดับ 50% เป็นเดือนที่ 17 ติดต่อกัน นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียยังได้รับปัจจัยหนุนจากยอดส่งออกของเกาหลีใต้ที่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 9 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง
ณ เวลา 09:07 น.ตามเวลาโตเกียว เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ระดับ 86.49 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 86.47 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ เงินดอลลาร์เทรดที่ระดับ 1.3056 ยูโรต่อดอลลาร์ จากระดับ 1.3052 ยูโรต่อดอลลาร์
ด้านเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น 0.4% แตะที่ 90.77 เซนต์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนเงินเยนซื้อขายกันที่ 112.92 ต่อยูโร จากระดับ 112.84 ต่อยูโรในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นอกเหนือจากวาทะของกรีนสแปนที่ส่งผลกระทบต่อเงินดอลลาร์แล้ว ปัจจัยลบอีกประการหนึ่งคือการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2553 ของสหรัฐที่ขยายตัวเพียง 2.4% ต่อปี ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อทียบกับจีดีพีไตรมาสแรกที่ผ่านการทบครั้งใหม่ว่าขยายตัว 3.7% และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.5% ต่อปี