นายศุภชัย ตั้งใจตรง กรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)หรือ เรคกูเลเตอร์ คาดว่า ผลการศึกษาเพื่อจัดทำระเบียบเงื่อนไขการทำรายงานผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม(Code of Practice:COP) สำหรับโรงไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีกำลังการผลิตไม่เกิน 10 เมกะวัตต์จะศึกษาแล้วเสร็จภายใน 2 เดือนนับจากนี้ไป โดย กกพ.อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสภาพแวดล้อม และผู้ประกอบการ เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน
ปัจจุบันโรงไฟฟ้าขนาดต่ำกว่า 10 เมกะวัตต์ ไม่ต้องจัดทำรายงานผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) แต่การทำอีไอเอจะทำเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาด 10 เมกะวัตต์ขึ้นไป ทำให้โรงไฟฟ้าประเภทต่างๆ ที่ต่ำกว่า 10 เมกะวัตต์ บางโรงอาจจะมีการก่อผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม และทำให้เกิดกระแสการต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่มากขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม และเป็นการแก้ปัญหาการคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่จะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม กกพ.จึงได้เตรียมกำหนดกฎเกณฑ์ข้อนี้ขึ้นมา
นายศุภชัย กล่าวว่า การทำ COP ค่อนข้างมีรายละเอียดมาก และความเห็นระหว่างหน่วยงานต่างๆ ยังเห็นไม่ตรงกัน ทำให้การกำหนดหลักเกณฑ์มีความล่าช้าไปจากแผนเดิมที่คาดว่าจะน่าจะดำเนินการได้เสร็จแล้วในช่วงนี้
สำหรับ COP ที่จะประกาศออกมาจะเป็นการประกาศกฎเกณฑ์ เงื่อนไข มาตรการต่างๆ และแนวทางในการปฎิบัติ โดยแบ่งเป็นแต่ละประเภทโรงไฟฟ้าที่จะมีข้อปฏิบัติไม่เหมือนกัน และ กกพ.จะเป็นผู้ตรวจสอบว่าโรงไฟฟ้าแต่ละโรงจะสามารถดำเนินการได้ตาม COP หรือไม่ หากไม่ผ่านก็ไม่สามารถที่จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้
ทั้งนี้ คาดว่า COP สำหรับโรงไฟฟ้าแกลบจะประกาศออกมาก่อนเป็นตัวแรก จากนั้นก็จะประกาศ COP สำหรับโรงไฟฟ้าประเภทอื่นตามมา คือ ชีวมวลประเภทอื่น ก๊าซธรรมชาติ แสงอาทิตย์ และลม อย่างไรก็ตามการทำ COP จะไม่เข้มข้นเหมือนการทำ EIA ซึ่งการทำ EIA จะต้องให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม(สผ.) เป็นผู้พิจารณาอนุมัติ แต่สำหรับ COP กกพ.จะเป็นผู้พิจารณาเอง