กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนมิ.ย.ทรงตัว หลังจากขยับขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ขณะที่อัตราการออมส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 6.4% ของรายได้หลังหักภาษี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี ซึ่งตัวเลขการใช้จ่ายที่ชะลอตัวลงในขณะที่อัตราการออมพุ่งขึ้นเช่นนี้ ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างล่าช้า
นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคจะชลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังคงซบเซา และอัตราว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูง โดยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2553 ของสหรัฐ ขยายตัวในอัตรา 2.4% ต่อปี ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อทียบกับจีดีพีไตรมาสแรกที่ผ่านการทบครั้งใหม่ว่าขยายตัว 3.7% และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.5% ต่อปี
ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเป็นหนึ่งในข้อมูลเศรษฐกิจที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์จับตาดูมากที่สุด เพราะตัวเลขดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 70 ของกิจกรรมเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐ