เรียลตี้แทรค อิงค์ (RealtyTrac Inc) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนบ้านที่ถูกยึดอันเนื่องมาจากการผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ พุ่งขึ้นเกือบ 4% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 325,229 หลัง ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะอ่อนแอในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ นอกจากนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังสะท้อนให้เห็นว่าราคาบ้านในสหรัฐยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว
เจมส์ แซคคาซิโอ ซีอีโอเรียลตี้แทรคกล่าวว่า "จำนวนบ้านที่ถูกยึดในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 ส่งผลให้จำนวนบ้านที่ถูกยึดโดยรวมมีอยู่มากกว่า 300,000 หลัง ขณะที่ริค ชาร์กา รองประธานฝ่ายการตลาดของเรียลตี้แทรคกล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของจำนวนบ้านที่ถูกยึดเป็นผลมาจากอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูงและภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบางของสหรัฐ
ส่วนจำนวนบ้านที่ถูกยึดในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2553 อยู่ที่ระดับ 1.6 ล้านหลัง เพิ่มขึ้น 8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2552
สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payroll) เดือนก.ค.ของสหรัฐ ร่วงลง 131,000 อัตรา ขณะที่อัตราว่างงานเดือนก.ค.ยืนอยู่ที่ระดับ 9.5%
วิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจ้าของบ้านในสหรัฐทำให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ประกาศจัดตั้งกองทุนมูลค่า 1.58 พันล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อช่วยเหลือเจ้าของบ้านชาวอเมริกันใน 5 รัฐที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะตกต่ำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และเจ้าของบ้านที่ตกงานจนไม่สามารถผ่อนชำระค่าบ้านได้ ซึ่งรัฐทั้ง 5 ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา เนวาดา อริโซนา และมิชิแกน