นายกฯ ยันงบปี 54 คุ้มค่าถึงมือประชาชนจริง จวก"สุรพงษ์"ให้ข้อมูลผิดตลอด

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 18, 2010 12:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า เม็ดเงินที่จะลงไปตามร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 54 จะเป็นประโยชน์ต่อการฟื้นเศรษฐกิจของประเทศ และสามารถลงไปถึงมือประชาชนได้อย่างแท้จริง ซึ่งสิ่งที่ฝ่ายค้านดูหมิ่นว่ารัฐบาลนี้ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นได้ หรือไม่สามารถหารายได้เข้าประเทศได้นั้น ในความจริงแล้วช่วงระยะเวลาปีครึ่ง รัฐบาลได้ทำให้เศรษฐกิจที่หดตัวจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกที่รุนแรงมากมาตั้งแต่ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะรับตำแหน่ง กลับมาเติบโตได้มากว่า 10% ในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดประเทศหนึ่งของโลก

ส่วนที่ฝ่ายค้าน ระบุว่า รัฐบาลว่าไม่สามารถหาเงินรายได้เข้าประเทศได้นั้น ก็ไม่จริงเช่นกัน เพราะเมื่อดูจากรายได้ภาคการส่งออก รายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา กลับมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งรัฐบาลยังไม่ได้ใช้งบประมาณมากเท่าที่ตั้งไว้ แต่รัฐบาลประสบผลสำเร็จจากการแก้ไขปัญหาบางเรื่อง ซึ่งหลายปัญหาไม่จำเป็นต้องแก้ไขด้วยการทุ่มงบประมาณเสมอไป

ขณะที่การลงทุนนั้น ยืนยันว่าจะเป็นการลงทุนที่มีความหมายต่ออนาคตของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในด้านแหล่งน้ำ ถนน รถไฟ โรงเรียน โรงพยาบาล

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการก่อหนี้ของรัฐบาลว่า แม้รัฐบาลชุดนี้มีแผนจะต้องกู้เงินค่อนข้างมาก เพื่อแก้ไขผลกระทบที่เกิดจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ถือว่ารุนแรงนั้น แต่สุดท้ายแล้วรัฐบาลก็สามารถบริหารจัดการได้จนทำให้ลดการกู้เงินลงได้ถึง 50% ซึ่งบ่งบอกว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีของไทย ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 42.5% นั้นถือว่าอยู่ในระดับที่ดีกว่าหลายประเทศ และมั่นใจว่าจะไม่เพิ่มขึ้นไปสูงถึงระดับ 60% ต่อจีดีพีตามที่หลายฝ่ายกังวล

นายกรัฐมนตรี ยังชี้แจงด้วยว่า รัฐบาลไม่เคยจะทำให้เป็นรัฐสวัสดิการตามที่ฝ่ายค้านกล่าวอ้าง แต่รัฐบาลจะทำให้เกิดระบบสวัสดิการสำหรับประชาชน เพราะถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเรียนฟรี ระบบประกันรายได้ เบี้ยรายเดือนของคนพิการและผู้สูงอายุ เป็นต้น

"ท่าน(นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย) ไม่เห็นด้วยก็เรื่องของท่าน แต่ผมเห็นว่าสำคัญและเป็นเงินที่ใช้จ่ายแล้ว ถึงมือพี่น้องประชาชนจริงๆ เพราะฉะนั้นที่พยายามดูหมิ่นดูแคลนว่าแก้ปัญหาไม่ได้นั้น ท่านพูดแบบนี้มาปีครึ่งแล้ว และตัวเลขที่ออกมาทีหลังก็พิสูจน์แล้ว ว่าท่านผิดมาโดยตลอด" นายกรัฐมนตรี กล่าว

ก่อนหน้านี้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า เหตุที่ขอแปรญัตติเพื่อปรับลดงบประมาณรายจ่ายปี 54 ลง 30% คิดเป็นเม็ดเงินถึง 6 แสนล้านบาท จากจำนวนงบประมาณรายจ่ายทั้งสิ้น 2.07 ล้านล้านบาทนั้น เนื่องจากเห็นว่ารัฐบาลได้ย้ำอยู่ตลอดว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีการจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ ดังนั้นจึงมองว่ารัฐบาลไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เม็ดเงินงบประมาณรายจ่ายในปี 54 จำนวนมากถึง 2.07 ล้านล้านบาท

นายสุรพงษ์ ยอมรับว่า ในท้ายสุดจะไม่มีการปรับแก้ไขตัวเลขในชั้นของคณะกรรมาธิการแล้ว และเชื่อว่าสภาฯ จะผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 54 อย่างแน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ