นายเหลียน ปิง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากแบงค์ ออฟ คอมมูนิเคชัน ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของจีน คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อภายในประเทศ จะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3.3% ในเดือนส.ค. ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุด ก่อนที่จะชะลอตัวลงในอีก 2-3 เดือนหลังจากนั้น
ขณะเดียวกันนายเหลียนคาดว่า ในระยะสั้นนั้น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในจีนจะชะลอตัวลงเนื่องจากกระแสความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งราคาสินค้าด้านอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลง และความกังวลที่ว่าวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปจะลุกลามไปทั่วโลก
ส่วนในระยะยาวนั้น คาดว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความวิตกกังวลให้กับทางการจีน เนื่องจากราคาอาหาร ต้นทุนด้านแรงงงาน และต้นทุนทรัพยากรธรรมชาติยังคงมีแนวโน้มพุ่งขึ้น โดยคาดว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในจีนจะเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค.และเม.ย.ปีหน้า
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนว่า ดัชนีซีพีไอเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 3.3% จากปีที่แล้ว หรือเพิ่มขึ้น 0.4% จากเดือนมิ.ย. โดยดัชนีซีพีไอที่ระดับ 3.3% ถือเป็นระดับสูงสุดในปีนี้ และสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ 3% ซึ่งเป็นผลมาจากราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น
ส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (พีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อในระดับค้าส่ง ขยายตัว 4.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนก.ค. ซึ่งลดลง 1.6% จากเดือนมิ.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงาน