นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้ช่วย รมว.อุตสาหกรรม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ)กล่าวว่า ที่ประชุมวันนี้ยังไม่ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการแปลงสัญญาสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนระบบ 2G เนื่องจากทางกฤษฎีกายังไม่ตอบความเห็นทางด้านกฎหมายกลับมา
"ตามที่ไอซีทีได้เสนอแนวทางไว้ 4-5 แนวทาง แต่ในวันนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจเลือก เพราะทางกฤษฎีกายังไม่ได้ตอบ"นายพุทธิพงษ์ กล่าวทั้งนี้ แนวทางที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)นำเสนอประเด็นในการแปลงสัญญาสัมปทานเบื้องต้น ได้แก่ ประเด็นแรกคือการส่งคลื่นความถี่กลับไปยัง บมจ.ทีโอที และ บมจ. กสท.โทรคมนาคม ซึ่งอาจจะเลือกเป็นการดำเนินการต่อ หรือคืนคลื่นให้กับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.)
และ ประเด็นที่ 2 คือการส่งคลื่นกลับไปที่ กทช.เพื่อเปลี่ยนเป็นการออกอนุญาต อายุ 3,5 และ 8 ปี หรือ การออกใบอนุญาตอายุ 15 ปี ด้วยการประมูลหรือไม่ประมูล
อย่างไรก็ตาม หากมีการแปลงสัญญาสัมปทานแล้ว รายได้ของบมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท.โทรคมนาคม จะลดลงอย่างแน่นอน แต่วันนี้ยังไม่ได้มีการรายงานมาว่าจะมีกระทบมากน้อยแค่ไหน
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังได้พิจารณาปัญหาราคาสินค้าสูงเกินความเป็นจริง โดยนายกรัฐมนตรีได้ฝากให้กระทรวงพาณิชย์เร่งติดตามปัญหาราคาสินค้าบางรายการที่มีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างผิดปกติ โดยเฉพาะน้ำดื่มบรรจุขวด ยางพารา และน้ำตาล
โดยเฉพาะราคาน้ำดื่มบรรจุขวดใด ได้มอบให้เจ้าหน้าที่พาณิชย์แต่ละจังหวัดเข้าไปตรวจสอบทั้งในร้านทั่ว ๆ ไป และโมเดิร์นเทรดว่าการกำหนดราคามีความสอดคล้องกับความตอ้งการของผู้บริโภคหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงพาณิชย์รายงานว่าส่วนหนึ่งการตั้งราคาแพงเนื่องจากบางจังหวัดประสบปัญหาน้ำท่วม