นักเศรษฐศาสตร์ทั้งในและต่างประเทศกระตุ้นให้รัฐบาลเวียดนามจับตาและหามาตรการในการจำกัดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่เข้ามาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนามสูงเกินไป
โดยนักเศรษศาสตร์ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ กล่าวในงานสัมมนาเกี่ยวกับสถานการณ์โลกปัจจุบันภายหลังจากภาวะวิกฤติการเงินโลกและผลกระทบต่อเวียดนาม ซึ่งจัดโดยกระทรวงวางแผนและการลงทุนของเวียดนามว่า ขณะนี้เวียดนามมีเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในตลาดอสังหาริมทรัพย์สูงเกินไป ซึ่งรัฐบาลจะต้องจับตามองแนวโน้มนี้อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติของเวียดนามเปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา เวียดนามมีเม็ดเงิน FDI ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 35% ในขณะที่เม็ดเงิน FDI ในส่วนของอุตสาหกรรมการผลิตกลับลดลงเหลือเพียง 13.8% ของเม็ดเงิน FDI ทั้งหมด
ด้านศาสตราจารย์ฮานส์จอร์ด แฮร์ นักเศรษฐศาสตร์จากวิทยาลัยบริหารธุรกิจและกฎหมายในกรุงเบอร์ลิน กล่าวว่า การที่มีเม็ดเงิน FDI ไหลเข้าตลาดอสังหาริมทรัพย์สูงเกินไปจะทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น และอาจก่อให้เกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ โดยศ. แฮร์ แนะนำว่า เวียดนามควรมีมาตรการในการจำกัดเม็ดเงิน FDI ที่ลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์
ในขณะเดียวกัน นายนอยเย็น ดินห์ ชุง รองผู้อำนวยการสถาบันศูนย์เศรษฐศาสตร์การบริหารของเวียดนาม กล่าวว่า รัฐบาลเวียดนามจะต้องตรวจสอบเม็ดเงิน FDI อย่างละเอียดก่อนที่จะอนุมัติโครงการลงทุนใดๆ และควรให้ความสำคัญกับเม็ดเงิน FDI ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตมากขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน