ราคาซีเมนต์และเหล็กของจีนสูงขึ้นในระยะนี้ หลังจากที่มีการดูแลเรื่องการจัดสรรพลังงาน เพื่อตรวจสอบว่ามีกำลังการผลิตที่สูงเกินไปหรือไม่ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการประหยัดพลังงานและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามแผนพัฒนาฉบับที่ 11 ระยะเวลา 5 ปี (2549-2553) ซึ่งเชื่อว่าแผนดังกล่าวจะทำให้ราคาถ่านหินสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์อุปทานและอุปสงค์ถ่านหินที่สมดุลนั้น ราคาถ่านหินยังไม่มีแนวโน้มว่าจะดีดตัวขึ้นมากนัก
ข้อมูลจากคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติระบุว่า ราคาถ่านหินหน้าเหมืองโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 714 หยวนต่อตันในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 0.31% ต่อเดือน
-- หัวนึง พาวเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหุ้นให้แก่บุคคลในวงจำกัดในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และตลาดหุ้นฮ่องกง
-- บริษัท หยานโจว โคล ไมนิ่ง เปิดเผยว่า บริษัทกำลังวางแผนที่จะซื้อหุ้น 51% ในบริษัท มองโกเลีย ฮ่าวเซิง โคล ไมนิ่ง มูลค่า 6.65 พันล้านหยวน
สต็อกถ่านหินทั้งหมดของฮ่าวเซิงอยู่ที่ 1.64 พันล้านตัน
-- ไชน่า เนชั่นแนล โคล กรุ๊ป คอร์ป ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนได้รับการอนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์ให้ดำเนินโครงการเหมืองถ่านหินร่วมกันกับบริษัทถ่านหินออสเตรเลียในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย
โดยมีการประเมินว่า สต็อกถ่านหินทั้งหมดของโครงการจะอยู่ที่ 1 หมื่นล้านตัน
-- คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า คณะกรรมการได้อนุมัติให้บริษัท ไชน่า หัวเตี้ยน เอ็นจิเนียริ่ง เข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังความร้อนขนาด 130 เมกะวัตต์ในอินโดนีเซีย และอนุมัติให้บริษัท ไชน่า เซาเทิร์น พาวเวอร์ กริด สร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนขนาด 1,200 เมกะวัตต์ในประเทศเวียดนาม สำนักข่าวซินหัวรายงาน