"อลงกรณ์"สำรวจลู่ทางโลจิสติกท์อเมริกาใต้หวังเชื่อมประตูการค้ารับ FTA

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 7, 2010 17:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยระหว่างการนำคณะผู้แทนการค้าไทยเดินทางไปสำรวจโอกาสและลู่ทางในการเชื่อมเส้นทางโลจิสติกส์ระหว่างไทยกับประเทศในอเมริกาใต้ ระหว่างวันที่ 2-11 ก.ย.ว่า ได้มีโอกาสเยี่ยมชมท่าเรือซานโตสที่ใหญ่ที่สุดของบราซิลและอเมริกาใต้ และท่าเรือคาเยา ของเปรู ซึ่งเป็นท่าเรือพาณิชย์ใหญ่ที่สุดในฝั่งแปซิฟิกใต้ของทวีปอเมริกาใต้ เพื่อผลักดันการส่งออกและนำเข้าให้กับผู้ประกอบการไทย

ทั้งนี้ บราซิลและเปรู อยู่ในแผนการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี(FTA) ของไทย โดยเปรู-ไทยได้ทำ FTA ไปแล้ว ส่วนบราซิลกำลังศึกษาทำ FTA ในกรอบอาเซียนกับกลุ่มเมอร์โคซูร์ จึงต้องมาดูว่าจะหาทางเชื่อมโยงเส้นทางการค้าระหว่างกันได้อย่างไร เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการไทยในการใช้ประโยชน์จาก FTA

อย่างไรก็ตาม ท่าเรือซานโตส เป็นท่าเรือที่สำคัญต่อการส่งออกสินค้าของไทยมาบราซิล โดยสินค้าส่งออกสำคัญที่ผ่านท่าเรือนี้ ได้แก่ น้ำตาล, เมล็ดถั่วเหลือง, แอลกอฮอล์, น้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำส้ม ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญที่ผ่านท่าเรือนี้ ได้แก่ ปุ๋ย, ข้าวสาลี, ก๊าซปิโตเลียมเหลว เป็นต้น ส่วนท่าเรือคาเยา สินค้าส่งออกสำคัญที่ผ่านท่าเรือนี้ ได้แก่ เหล็ก, แร่ธาตุ, ปลาป่น และน้ำมันปลา ขณะที่สินค้านำเข้าสำคัญที่ผ่านท่าเรือนี้ ได้แก่ ข้าวสาลี, ไม้ซุง และเครื่องจักร เป็นต้น

รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ยังได้มีโอกาสหารือกับสหพันธ์ผู้ผลิตอ้อย-เอทานอลของบราซิล เกี่ยวกับการสร้างความร่วมมือด้านการค้าน้ำตาลทรายในตลาดโลก การผลิตและการค้าเอทานอล เพราะบราซิลเป็นผู้เชี่ยวชาญและเป็นผู้นำในด้านนี้ นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงการค้าต่างประเทศและการท่องเที่ยว ของเปรู เพื่อหาช่องทางในการเพิ่มความร่วมมือด้านการค้า และการลงทุนระหว่างกันด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ