รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศจัดสรรงบประมาณการใช้จ่ายมูลค่า 9.15 แสนล้านเยนตามแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ โดยมีเป้าหมายหลักคือสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยน และป้องกันเศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ให้เผชิญกับภาวะขาลง ด้วยการเพิ่มการจ้างงาน 200,000 ตำแหน่ง และสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มาตรการดังกล่าวซึ่งได้รับการอนุมัตจากคณะรัฐมนตรีในช่วงเช้าวันนี้นั้น อาจจะช่วยกระตุ้นตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ให้ขยายตัวราว 0.3% หรือคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจโดยรวม 9.8 ล้านล้านเยน
แถลงการณ์ของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ทางรัฐบาลจะใช้มาตรการเชิงรุก ซึ่งครอบคลุมถึงการแทรกตลาดหากจำเป็น เพื่อสกัดกั้นการแข็งค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ พร้อมกับแสดงความพอใจที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะใช้นโยบายการเงินที่จำเป็นเพิ่มเติมเพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืด และยังให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างใกล้ชิด
ค่าเงินเยนพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 83 เยนในสัปดาห์นี้ ซึ่งเงินเยนที่แข็งค่าส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนในภาคธุรกิจของญี่ปุ่นอ่อนแอลงมาก โดยเฉพาะในกลุ่มบริทส่งออก
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้จะไม่ดำเนินการผ่านการออกพันธบัตรรัฐบาล แต่จะจัดสรรเงินมูลค่า 9.20 แสนล้านเยน จากทุนสำรองเงินตราต่งประเทศมาใช้ในงบประมาณประจำปี 2010 เพื่อสนับสนุนโครงการฉุกเฉินในด้านต่างๆ พร้อมกับกล่าวว่า ทางรัฐบาลจะทุ่มเทความพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อกระตุ้นการจ้างงาน รวมถึงการให้เงินสนับสนุนแก่บริษัทต่างๆที่รับเยาวชนเข้าทำงาน ส่งเสริมการจ้างงานด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ พลังงาน ท่องเที่ยว และพยาบาล รวมทั้งผ่อนปรนเงื่อนไขการกู้ยืมเงินของบริษัทขนาดเล็กที่เพิ่มการจ้างงาน
นอกจากนี้ รัฐบาลจะสนับสนุนบริษัทเอกชนให้เพิ่มตัวเลขการใช้จ่ายด้านทุน หลังจากการแข็งค่าของเงินเยนได้ทำให้บริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นหันไปซื้อสินค้าในตลาดต่างประเทศ ขณะเดียวกันรัฐบาลจะริเริ่มโครงการสนับสนุนการลงทุนในญี่ปุ่น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ส่วนในด้านการกระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภคนั้น รัฐบาลจะขยายระยะเวลาโครงการสนับสนุนในด้านต่างๆ รวมถึงการขยายเวลาโครงการ ''eco-point'' เพื่อสนับสนุนให้ผู้บริโภคซื้อเครื่องใช้ในครัวเรือนที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม