ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 47.53 จุด หรือ 0.46% ปิดที่ 10,462.77 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 5.37 จุด หรือ 0.49% ปิดที่ 1,109.55 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 6.28 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 2,242.48 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่า บริษัทเอนบริดจ์ เอนเนอร์จี พาร์ทเนอร์ ตัดสินใจปิดท่อส่งน้ำมันที่ลำเลียงไปยังโรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวกระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อสัญญาน้ำมันดิบเพราะคาดว่าซัพพลายพลังงานในพื้นที่ดังกล่าวอาจเผชิญกับภาวะตึงตัว
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 76.45 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและญี่ปุ่น ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในแนวโน้มเศรษฐกิจและลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 4.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1246.5 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1249.1 - 1243.5 ดอลลาร์
-- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีนทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 84.150 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดี (9 ก.ย.) ที่ 83.800 เยน และพุ่งขึ้น 0.42% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0190 ฟรังค์ จากระดับ 1.0147 ฟรังค์
ค่าเงินปอนด์ดิ่งลง 0.47% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5355 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ1.5427 ดอลลาร์ และยูโรขยับขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2708 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2694 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (10 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ (อาร์บีเอส) ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งสุด นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของจีนและสหรัฐ
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 7.48 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 5,501.64 จุด