นายนิกร จำนง ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ คาดว่า ดัชนีราคาสินค้าเกษตรในเดือนกันยายน จะปรับตัวลดลงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากสินค้าสำคัญหลายชนิดออกสู่ตลาดมากขึ้น เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน ยางพารา และสับปะรด รวมทั้งข้าวนาปีที่ผลผลิตเริ่มทยอยออกสู่ตลาด ขณะที่คาดว่าดัชนีผลผลิตในภาพรวมจะยังคงสูงขึ้นจากเดือนที่ผ่านมา
สำหรับภาพรวมราคาสินค้าเกษตรจากดัชนีราคาสินค้าเกษตร เมื่อเดือนสิงหาคม 2553 สูงขึ้น ร้อยละ 31.06 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ลำไย ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง สุกร ไก่เนื้อ ไข่ไก่ และกุ้งขาวแวนนาไม แต่ข้าวนาปรังราคาลดลง เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา
และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมาพบว่า ดัชนีราคาลดลง ร้อยละ 0.47 สินค้าสำคัญที่ราคาลดลง ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยางพารา ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ไก่เนื้อ และไข่ไก่
โดยในส่วนของยางพารา ราคาลดลงตามราคาตลาดโลกเนื่องจากมีปัจจัยลบจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ส่วนผลไม้ราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตจากภาคใต้ออกสู่ตลาดมาก แต่ในเดือนหน้าผลไม้ภาคใต้ทั้ง 4 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง มีแนวโน้มจะปรับราคาสูงขึ้นจากผลผลิตที่ออกสู่ตลาดลดลง เนื่องจากอยู่ในช่วงปลายฤดู ยกเว้นลองกองที่อาจจะยังคงมีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวจะไม่เป็นอุปสรรคมากนักในด้านของราคาผลไม้ภาคใต้ในภาพรวม เนื่องจากคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ โดยนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ได้สั่งการให้ติดตามดูแลและให้มีการดำเนินการตามแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคใต้ ปี 2553 ทั้ง 4 มาตรการอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ช่วงก่อนฤดูกาลผลิต ได้แก่ การพัฒนาคุณภาพผลผลิต การกระจายผลผลิตออกนอกพื้นที่ภาคใต้ การผลักดันการส่งออก และการส่งเสริมการบริโภคและตลาดผลไม้ภาคใต้ สำหรับสินค้าที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ลำไย และกุ้งขาว แวนนาไม ส่วนดัชนีราคาสินค้าเกษตร เดือนสิงหาคม 2553 เมื่อจำแนกตามหมวดสินค้า เปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา และเดือนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ พบว่า ทุกหมวดสินค้ามีดัชนีราคาสูงขึ้น ได้แก่ หมวดพืชอาหารและธัญพืช ดัชนีราคาสูงขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 28.33 สินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาดัชนีสูงขึ้น ร้อยละ 4.56
หมวดพืชน้ำมัน ดัชนีราคาสูงขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 14.86 สินค้าที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ปาล์มน้ำมัน และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาดัชนีสูงขึ้นร้อยละ 8.62
หมวดพืชไม้ยืนต้น ดัชนีราคาสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 59.58 สินค้าที่ราคาสูงขึ้นได้แก่ ยางพารา แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาดัชนีลดลงร้อยละ 2.83
หมวดพืชไม้ผล ดัชนีราคาสูงขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 41.84 สินค้าที่ราคาสูงขึ้นมาก ได้แก่ สับปะรด ลำไย ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาดัชนีลดลงร้อยละ 10.96 สินค้าที่ราคาลดลง ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด และลองกอง
หมวดพืชผัก ดัชนีราคาสูงขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 38.31แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาดัชนีลดลงร้อยละ 7.87
หมวดปศุสัตว์ ดัชนีราคาสูงขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 8.29 แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาดัชนีลดลงร้อยละ 2.12
หมวดประมง ดัชนีราคาสูงขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 6.36 และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาดัชนีสูงขึ้นร้อยละ 2.01
หมวดพืชพลังงาน ดัชนีราคาสูงขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 44.79 สินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ มันสำปะหลัง และปาล์มน้ำมัน และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมาดัชนีสูงขึ้นร้อยละ 7.58
สำหรับภาพรวมดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่า ดัชนีผลผลิตลดลง คิดเป็นร้อยละ 4.21 โดยสินค้าสำคัญที่ผลผลิตลดลง ได้แก่ มันสำปะหลัง ทุเรียน ลำไย ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลผลิต ส่วนสินค้าที่ผลผลิตสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวนาปรัง ปาล์มน้ำมัน สับปะรด สุกร ไก่เนื้อ และไข่ไก่ และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ดัชนีผลผลิตสูงขึ้น ร้อยละ 15.59 สินค้าสำคัญที่ผลผลิตสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน และไก่เนื้อ ส่วนสินค้าสำคัญที่ผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมา ได้แก่ ข้าวนาปรัง มันสำปะหลัง สับปะรด ลำไย และสุกร