ยอดเกินดุลของการซื้อและขายเงินตราต่างประเทศของธนาคารของจีนในนามของลูกค้าที่ดีดตัวขึ้นเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่า กระแสเงินทุนที่ไหลเข้าประเทศมีจำนวนสูงขึ้น
สำนักปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) ยอดเกินดุลของการซื้อและขายสกุลเงินต่างประเทศของธนาคารของจีนที่ดำเนินการในนามของลูกค้าเมื่อเดือนก.ค.นั้น คิดเป็นมูลค่า 2.66 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่พุ่งขึ้น 90% จากระดับเดือนมิ.ย.ที่ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์
เมื่อเดือนก.ค.นั้น ธนาคารต่างๆของจีนได้ซื้อสกุลเงินต่างประเทศไปมูลค่า 1.14 แสนล้านดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติเดือนมิ.ย.ที่ 1.08 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่มูลค่าการขายสกุลเงินต่างประเทศที่ธนาคารดำเนินการในนามของลูกค้าเมื่อเดือนก.ค.อยู่ที่ 8.76 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจากระดับเดือนมิ.ย.ที่ 9.47 หมื่นล้านดอลลาร์
ขณะที่ธนาคารของจีนได้รับรายได้จากการทำธุรกิจที่เกี่ยวกับต่างประเทศในเดือนก.ค.ในนามของลูกค้า 1.62 แสนล้านดอลลาร์ และมีรายจ่ายกับธุรกิจที่เกี่ยวกับต่างประเทศในนามของลูกค้าในเดือนก.ค.มูลค่า 1.34 แสนล้านดอลลาร์
เจ้าหน้าที่ของสำนักปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีนในระดับท้องถิ่น กล่าวว่า ยอดเกินดุลการค้านั้นเป็นปัจจัยหลักที่มีอิทธิพลต่อตัวเลขเหล่านี้
ยอดเกินดุลการค้าของจีนเมื่อเดือนก.ค.นั้นอยู่ที่ 2.88 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงขึ้น 43% จากระดับเดือนมิ.ย. ยอดเกินดุลการค้ายังทำให้ยอดเกินดุลของการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศในนามลูกค้าของธนาคารจีนดีดตัวขึ้นด้วยเช่นกัน
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า กระแสเงินทุนไหลเข้าภายใต้บัญชีทุนนั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อตัวเลขเหล่านี้
เมื่อเดือนพ.ค.และมิ.ย.นั้น นักลงทุนทั่วโลกเริ่มถือครองสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับหนี้สาธารณะยุโรป ซึ่งช่วยผ่อนคลายการคาดการณ์เรื่องเงินหยวนแข็งค่าด้วยเช่นกันในช่วงดังกล่าว ดังนั้น ยอดเกินดุลของสกุลเงินต่างประเทศในเดือนพ.ค.และมิ.ย.อ่อนตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบเป็นรายเดือน
เมื่อเดือนก.ค.นั้น ความผันผวนในตลาดปริวรรตเงินตราทั่วโลกคลี่คลายลง เงินทุนต่างชาติเริ่มถอนตัวจากสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และหาทางลงทุนในแหล่งอื่นๆ
รายได้จากซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศและอัตราการทำธุรกรรมสกุลเงินต่างประเทศเดือนก.ค.อยู่ที่ 70.4% เพิ่มขึ้นจากระดับเดือนมิ.ย.ที่ 67.3% โดยตัวเลขที่สูงขึ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า องค์กรต่างๆเต็มใจที่จะเคลียร์รายได้จากสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งเกี่ยวพันกับการคาดการณ์ในตลาดเรื่องการแข็งค่าของเงินหยวนด้วยเช่นกัน
แม้ว่า ยอดเกินดุลของการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศของธนาคารจีนที่ดำเนินการในนามของลูกค้าจะดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายเดือน แต่ตัวเลขเดือนก.ค.นั้นก็ยังต่ำกว่าตัวเลขเดือนม.ค. มี.ค. และเม.ย. ข้อมูลเหล่านี้ชี้ว่า การคาดการณ์เรื่องเงินหยวนแข็งค่าเมื่อเดือนกงค.นั้นยังอยู่ในระดับที่อ่อนแอกว่าการคาดการณ์เมื่อช่วงต้นปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน