ศูนย์วิจัยกสิกรฯมองโอกาสกนง.ขึ้นดอกเบี้ยรอบหน้ามีน้อยลง หลังบาทแข็งกดดัน

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 21, 2010 12:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.เกวลิน หวังพิชญสุข ผู้จัดการฝ่ายวิจัยการเงินการธนาคาร บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่า โอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งหน้า(20 ต.ค.) เริ่มมีน้อยลง จากที่ก่อนหน้านี้ศูนย์วิจัยฯ เชื่อว่าการประชุม กนง.ครั้งหน้ามีโอกาสมากกว่า 50% ที่จะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย

"มุมมองดอกเบี้ยของเรายังเชื่อว่าสิ้นปีอยู่ที่ 2% แต่อาจจะไม่ได้ขึ้นทั้ง 2 ครั้งในอีก 2 รอบที่เหลือ ตอนนี้ถ้าขึ้น คือมองว่าขึ้นครั้งเดียว โอกาสที่จะขึ้นในครั้งหน้ามันลดลงแล้วจากก่อนหน้านี้ที่มองว่ามีโอกาสมากกว่า 50% ที่กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบหน้า แต่ตอนนี้โอกาสลดลงแล้ว" น.ส.เกวลิน กล่าวกับ "อินโฟเควสท์"

น.ส.เกวลิน ยอมรับว่า จากสถานการณ์และข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้ค่อนข้างวิเคราะห์ยากว่า กนง.จะเลือกให้น้ำหนักไปทางใดระหว่างการคงดอกเบี้ยหรือปรับขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากยังต้องรอตัวเลขเศรษฐกิจอีกหลายตัว เช่น รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังเดือนส.ค., อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย. เป็นต้น รวมถึงมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กำลังพิจารณาที่จะนำออกมาใช้ในสัปดาห์นี้เพื่อลดแรงกดดันค่าเงินบาท ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นข้อมูลสำคัญที่ กนง.จะใช้ประกอบการตัดสินใจ

อย่างไรก็ดี หากมองเฉพาะปัจจัยเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันก็มีความเป็นไปได้ทั้ง 2 ทาง ที่ กนง.จะปรับขึ้นดอกเบี้ย หรืออาจจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% โดยปัจจัยสนับสนุนในการปรับขึ้นดอกเบี้ย อาจจะมาจากตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ค่อนข้างดี ประกอบกับเงินเฟ้อยังมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นไปจนถึงครึ่งแรกของปี 54 ขณะที่ปัจจัยด้านที่สนับสนุนให้คงอัตราดอกเบี้ยนั้น มีประเด็นสำคัญเรื่องการแข็งค่าของเงินบาทเป็นตัวสำคัญ เพราะจะมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้า ซึ่งการส่งออกยังถือเป็นตัวหลักในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

"กนง.คงต้องให้น้ำหนักว่า ยังมองว่าเงินเฟ้อจะแรงไหม ถ้ามองว่าไม่กดดันมากแล้ว และในอนาคตยังมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจอยู่ ก็มีโอกาสจะคงดอกเบี้ย แต่ถ้ามองว่าเงินเฟ้อพื้นฐานมีโอกาสจะไปแตะขอบบนหรือหลุดขอบบน ก็อาจต้องให้น้ำหนักเงินเฟ้อ ด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งหน้า" น.ส.เกวลิน กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ