ผลการสำรวจเผยการออมภาคครัวเรือนของออสเตรเลียปรับตัวลดลงในช่วงไตรมาสกันยายน บ่งชี้ว่า สถานะการเงินของประชาชนอ่อนแอลงเล็กน้อยนับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ดัชนีสถานภาพการเงินภาคครัวเรือนซึ่งจัดทำโดยสถาบันเมลเบิร์น ลดลงแตะ 32.7% ในเดือนก.ย. จากระดับ 33.7% ในเดือนมิ.ย.
ผลสำรวจเดือนก.ย.แสดงให้เห็นด้วยว่า สัดส่วนของผู้ตอบแบบสอบถามที่เลือก "เก็บออมไว้เผื่ออนาคตหรือยามฉุกเฉิน" อยู่ที่ 49.1% ลดลงจาก 51.5% ในเดือนมิ.ย.
เอ็ดดา คลอส นักวิจัยจากสถาบันเมลเบิร์น กล่าวว่า มีสองประเด็นที่น่ากังวลปรากฏขึ้นในการสำรวจครั้งนี้ ได้แก่ สัดส่วนของผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านของตนเองโดยสมบูรณ์ ลดลงแตะ 37.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2548 ขณะที่สัดส่วนของครัวเรือนที่ปลอดหนี้ ลดลงเหลือ 36.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรายงานเมื่อเดือนมี.ค.2544
ผลสำรวจเผยด้วยว่า ประชาชนที่ออมเงินสำหรับใช้ในวันหยุดหรือเพื่อการท่องเที่ยวมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 57.3% จาก 55.8% ในเดือนมิ.ย.
ส่วนครัวเรือนที่เก็บออมเงินไว้เป็นจำนวนมาก ร่วงลงจากระดับ 11.5% ในเดือนมิ.ย. เหลือ 8.7% ในเดือนก.ย.
รายงานระบุว่า โดยรวมแล้ว สถานะทางการเงินของภาคครัวเรือนอ่อนแอลงเล็กน้อยในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ถือว่าดีกว่า ถ้าเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันนี้ในปีที่แล้ว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สถาบันเมลเบิร์นถือเป็นสถาบันวิจัยชั้นนำและเก่าแก่ในสาขาเศรษฐกิจ ด้วยการวิจัยที่ทันสมัยในประเด็นสำคัญๆที่เกี่ยวข้องกับนโยบายสังคมและเศรษฐกิจร่วมสมัย