นายสารัตถ์ รัตนาวดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท กัลฟ์ เพาเวอร์ เจเนอเรชั่น กล่าวว่า กัลฟ์ลงนามในสัญญา 4 ฉบับเพื่อกู้เงินจากสถาบันการเงินรวม 3.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นในส่วนธนาคารกสิกรไทย (KBANK) 1.3 หมื่นล้านบาท ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) 1.5 หมื่อนล้านบาท และ ธนาคารอื่นๆ อีก 5 พันล้านบาท ระยะเวลา 20 ปี เดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก SPP จำนวน 7 โครงการ รวมกำลังการผลิตกว่า 790 เมกะวัตต์ แต่ละโรงไฟฟ้าจะขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)
สำหรับเงินกู้ดังกล่าว แบ่งเป็นสกุลบาท 70% และเงินดอลลาร์สหรัฐ 30% ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนอยู่ที่ 3 ต่อ 1 โดยเป็นการกู้จากสถาบันการเงินในประเทศทั้งหมด มีธนาคารพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารทหารไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์) และธนาคารทิสโก้ โดยมีธนาคารกสิกรไทยเป็นตัวแทนสินเชื่อ และ ธนาคารไทยพาณิขย์เป็นตัวแทนหลักประกัน
ทั้งนี้ บริษัท กัลฟ์ฯ ยังไม่มีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น
นายนพเดช กรรณสูต ผู้อำนวยการฝ่ายสหบรรษัทธนกิจ KBANK กล่าวว่า ธนาคารปล่อยกู้ให้บริษัท กัลฟ์ฯ วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท อัตราดอกเบี้ยลอยตัว เพื่อความคล่องตัวในการปิดความเสี่ยงเรื่องอัตราดอกเบี้ย โดยโครงการแรกจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปีนี้ และคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟได้ปี 57 และโครงการที่ 7 เห็นการจ่ายไฟในปี 58