ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ของกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมหดตัวลงในเดือนส.ค. และจากแรงขายทำกำไรที่นักลงทุนส่งเข้าฉุดตลาดหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นแข็งแกร่งในเดือนก.ย. อย่างไรก็ตาม รายงานดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนส.ค.ได้ช่วยหนุนตลาดให้สามารถดีดตัวขึ้นจากการร่วงลงอย่างหนักในระหว่างวัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 78.41 จุด หรือ 0.72% แตะที่ 10,751.27 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 9.21 จุด หรือ 0.80% ปิดที่ 1,137.03 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 26.23 จุด หรือ 1.11% ปิดที่ 2,344.52 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เพราะได้ปัจจัยลบจากการร่วงลงของยอดสั่งซื้อใหม่ในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่อ่อนตัวลงและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนพ.ย.ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.13% ปิดที่ 81.47 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 80.77-82.38 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ นอกจากนี้ สัญญาทองคำและสัญญาโลหะมีค่าประเภทอื่นๆ รวมถึงพลาตินัมและพัลลาเดียมยังร่วงลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร และดัชนีการทำสัญญาซื้อบ้านที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,316.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,313.40 - 1,321.30 ดอลลาร์
-- ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพด้านการเงินของธนาคารในกลุ่มยูโรโซน รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของไอร์แลนด์และกรีซ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเทขายสกุลเงินยูโร
ค่าเงินยูโรดิ่งลง 0.73% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3689 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ (1 ต.ค.) ที่ระดับ 1.3789 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5831 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5815 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าใหม่ของกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมหดตัวลงในเดือนส.ค.
ดัชนี FTSE 100 ปิดร่วง 36.93 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 5,555.97 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,550.79 - 5,601.22 จุด