
ศูนย์รักษ์พุง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดตัว ObesityConnects แพลตฟอร์มไลน์ออฟฟิศเชียล เชื่อมผู้ป่วยโรคอ้วนเข้าถึงบริการการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง โดยให้ความรู้เชิงป้องกันและฟังก์ชันเช็คสุขภาพประจำวันสำหรับประชาชนทั่วไป
ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุเทพ อุดมแสวงทรัพย์ ศัลยแพทย์โรคอ้วน และผู้อำนวยการศูนย์รักษ์พุง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวถึงจุดประสงค์ของการสร้างแพลตฟอร์ม ObesityConnects ว่า "ความยั่งยืนเป็นคำตอบสุดท้ายของการรักษาโรคทุกโรค เมื่อคนไข้น้ำหนักตัวลดลงแล้ว เป้าหมายต่อไปคือการมีสุขภาพดีและมีน้ำหนักที่เหมาะสมอย่างนั้นตลอดไป ความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราให้คนไข้ติดต่อกับเราไปตลอด คนไข้มีการติดตามผล มีเครื่องมือช่วยให้คนไข้สามารถรับรู้แจ้งเตือนได้ว่าถึงเวลาต้องดูแลสุขภาพ รีบกลับเข้ามาดูแลตัวเองก่อนที่จะเป็นปัญหาและแก้ไขยากขึ้น"

โรคอ้วนเป็นปัญหาสุขภาพที่กำลังคุกคามคุณภาพชีวิตของคนไทย ข้อมูลจากศูนย์รักษ์พุง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ชี้ว่า ปัจจุบันประชากรในประเทศไทย 3 คน จะมี 1 คนที่มีภาวะโรคอ้วน แนวโน้มนี้ดูจะสูงขึ้นทุกปี
ผู้ที่เป็นโรคอ้วนมักมีอีกหลายโรครุมเร้า เช่น ไขมันเกาะตับ ความดันสูง เบาหวาน โรคเส้นเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคปอด ตับแข็ง นิ่ว มะเร็ง ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นโรคที่บั่นทอนคุณภาพชีวิต ใช้ระยะเวลาในการรักษานานค่าใช้จ่ายสูง และเป็นเหตุของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
การไม่เป็นโรคอ้วนหรือหายขาดจากโรคอ้วนจึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุด อย่างไรก็ดี การลดน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมนั้น พูดง่ายแต่ทำยาก เนื่องจากโรคนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของการรักษาด้วยการผ่าตัดหรือการทานยาเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งการรับประทาน การทำกิจกรรมประจำวัน และการออกกำลังกาย ซึ่งผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับความรู้ในการดูแลตัวเองที่ถูกต้อง กำลังใจและแรงสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง

ด้วยเหตุนี้ ศูนย์รักษ์พุง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย จึงริเริ่มสร้าง "ObesityConnects" แพลตฟอร์มไลน์ออฟฟิศเซียล (Line Official Account) รวบรวมข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคอ้วนและการดูแลรักษาสุขภาพแบบองค์รวม ซึ่งผู้ป่วยโรคอ้วนและประชาชนทั่วไปสามารถเข้ามาเรียนรู้และดูแลตัวเองให้ห่างไกลโรคอ้วนได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
ศ. นพ.สุเทพ อุดมแสวงทรัพย์ ศัลยแพทย์โรคอ้วน และผู้อำนวยการศูนย์รักษ์พุง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า "แพลตฟอร์มนี้จะเป็นศูนย์กลางข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพ เชื่อมหมอ สหสาขาวิชา คนไข้ผู้ที่เคยมีประสบการณ์โรคอ้วนโดยตรง ให้เข้ามาร่วมแชร์ความรู้ สุดท้ายคือเชื่อมคนในสังคมเข้าด้วยกันเพื่อให้ตระหนักรู้เรื่องการดูแลสุขภาพและการป้องกันโรคอ้วน"

ปัจจุบัน ObesityConnects ได้ถูกนำไปใช้กับคนไข้ที่คลินิกรักษ์พุง โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และในกลุ่มโรงพยาบาลที่มีการดูแลคนไข้ที่มีภาวะโรคอ้วนร่วมกัน เช่น โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ โรงพยาบาลกลาง และโรงพยาบาลศรีนครินทร์
"เราคุยกันในทีมชมรมศัลยศาสตร์โรคอ้วนแห่งประเทศไทยว่าควรจะสร้างแพลตฟอร์มที่ใช้ได้กับคนไข้ทุกคน ไม่ว่าจะรักษาอยู่ที่ศูนย์ใดก็ตาม ซึ่งตอนนี้แพลตฟอร์มอยู่ในขั้นตอนการปรับให้เหมาะสมเพื่อให้ศูนย์อื่น ๆ สามารถใช้ร่วมกันได้ แพลตฟอร์มสามารถแบ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคนไข้เป็นข้อมูลที่รักษาเป็นความลับ และพื้นที่ส่วนกลางเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องโรคอ้วน" ศ. นพ.สุเทพกล่าว"ฟังก์ชันที่เปิดให้บริการแล้วคือการติดตามดูแลผู้ป่วยโรคอ้วนว่าเมื่อได้รับการผ่าตัดแล้วเป็นอย่างไรบ้าง เราต้องการให้คนไข้สื่อสารกับทีมรักษาตลอดเวลา คนไข้สามารถกรอกข้อมูลในแต่ละวัน เช่น ผลเลือดและโรคต่าง ๆ พูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในศูนย์ฯ ได้ คนไข้จะมั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็จะมีคนติดตามดูแลและให้คำแนะนำเบื้องต้น"ศ. นพ.สุเทพกล่าวว่า คนไข้ที่มารักษาที่ศูนย์รักษ์พุง ทั้งคนไข้เก่าและคนไข้ใหม่ จะได้รับการเชิญให้เข้าแพลตฟอร์ม ObesityConnects ทั้งหมด โดยแอดไลน์เ แล้วลงทะเบียน กรอกประวัติส่วนตัว น้ำหนัก ส่วนสูง หมายเลขประจำตัวโรงพยาบาลและชื่อโรงพยาบาล หลังจากนั้นข้อมูลจะเชื่อมกับประวัติผู้ป่วยในฐานข้อมูลโรงพยาบาล
ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปสามารถใช้งาน ObesityConnects Line OA ได้ โดยการแอดไลน์และลงทะเบียน กรอกข้อมูลส่วนตัว แล้วใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม ซึ่งนอกจากฟังก์ชันมอนิเตอร์สุขภาพแล้ว ObesityConnects ยังมีข้อมูลข่าวสารสุขภาพที่มีประโยชน์มากมาย ดังนี้
1. บันทึกสุขภาพประจำวัน กรอกข้อมูลประจำวัน เช่น น้ำหนัก อาหารที่รับประทานในแต่ละมื้อ ปริมาณการดื่มน้ำในแต่ละวัน การออกกำลังกาย และอาการอื่นที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
2. เช็คแคลอรีอาหารประจำวันว่าให้ปริมาณกี่กิโลแคลอรี เช่น ข้าวผัดหมู 100 กรัมให้พลังงาน 181 กิโลแคลอรี ข้าวคลุกกะปิ 100 กรัมให้พลังงาน 191 กิโลแคลอรี และปลาทูน่าในน้ำสลัด 100 กรัมให้พลังงาน 86 กิโลแคลอรี
3. ตรวจสอบพลังงานที่เผาผลาญเมื่อออกกำลังกาย เช่น เดิน 1 ชั่วโมงเผาผลาญ 183 กิโลแคลอรี วิ่ง 1 ชั่วโมงเผาผลาญ 588 กิโลแคลอรี และว่ายน้ำ 1 ชั่วโมงเผาผลาญ 514 กิโลแคลอรี
4. Truth About Weight เว็บไซต์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคอ้วน เช่น โรคอ้วนในสตรี โรคอ้วนในวัยรุ่น และโรคอ้วนมีผลต่อสุขภาพระยะยาว
5. คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษาโรคอ้วน เช่น ขั้นตอนการรักษาที่คลินิกรักษ์พุง หากมีอาการผิดปกติหลังผ่าตัดต้องทำอย่างไร รพ. จุฬาลงกรณ์เจาะเลือดวันเวลาและสถานที่ใดบ้าง