ดาต้าเซ็ตจัดงานสัมมนา AI-Powered Media Intelligence โดยผู้เชี่ยวชาญด้าน MarTech เผย Data และ AI เป็นหัวใจของ MarTech ยุคใหม่ พร้อมแนะธุรกิจทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมายก่อนเลือกช่องทางสื่อสาร และใช้ Social Listening ควบคู่ AI เพื่อตอบว่า "ควรทำอะไรต่อ" ไม่ใช่แค่รู้ว่า "เกิดอะไรขึ้น" ขณะที่ผู้บริหารดาต้าเซ็ตเปิดตัว AI-Powered Strategic Reports ช่วยลดเวลาทำงาน โดยเน้นว่า "ข้อมูลที่เชื่อถือได้" คือกุญแจที่ทำให้ AI ทรงพลัง
นายธีรพล อำไพ ผู้เชี่ยวชาญด้าน MarTech และ AI กล่าวว่า ในยุคที่องค์กรต้องแข่งขันด้วยความเร็วและประสิทธิภาพ การนำ MarTech (Marketing Technology) มาใช้ เป็นสิ่งจำเป็นในการบริหารจัดการทรัพยากรที่จำกัด ไม่ว่าจะเป็น "เวลา" "งบประมาณ" และ "คน" ผ่านการใช้ "ข้อมูล" (Data) เป็นหลัก
"Data คือแกนหลักของ MarTech การเปลี่ยนผ่านองค์กรในวันนี้ไม่ควรหยุดแค่ Digital Transformation แต่ควรขยับไปสู่ AI Transformation อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้าง AI Experience ที่ทำให้การสื่อสารการตลาดและการจัดการข้อมูลเกิดประสิทธิภาพสูงสุด" นายธีรพลกล่าวนายธีรพลเน้นย้ำว่า หลายองค์กรมักเริ่มต้นผิดจุดโดยเลือกช่องทาง (Channel) ก่อน เช่น ทุ่มซื้อโฆษณาผ่าน Facebook จำนวนมาก ทั้งที่กลุ่มเป้าหมายอย่าง Gen Z อาจไม่ได้ใช้ช่องทางนี้
"การตลาดที่ดีต้องเริ่มจากการรู้จักกลุ่มเป้าหมาย (Target) ก่อนว่าคือใคร ต้องการอะไร มี Pain Point อะไร แล้วค่อยเลือกช่องทาง (Channel) ที่เหมาะสม ไม่ใช่เลือก Channel ก่อนแล้วค่อยหา Target" นายธีรพลกล่าวดังนั้น "ข้อมูล" (Data) จึงเป็นจุดตั้งต้นเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และ Social Listening เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรเข้าใจในการเลือกใช้ช่องทาง (Channel) การสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
นายศรุต อุดมการ Commercial Director บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด นำเสนอโซลูชัน AI-Powered Strategic Reports โดยเน้นย้ำถึงหลักการสำคัญที่สุดในการใช้งาน AI ในเชิงธุรกิจคือ "คุณภาพของข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์"
"AI powerful แน่นอน แต่หาก AI ไม่ได้ข้อมูลจาก Trusted Sources ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ตอบโจทย์ธุรกิจ ดังนั้นการใช้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือจะนำไปสู่ความเชื่อใจว่าข้อมูลนี้สามารถนำไปใช้งานต่อได้" นายศรุต กล่าวนายศรุตอธิบายว่า AI-Powered Strategic Reports ของดาต้าเซ็ต ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแปลงข้อมูลจำนวนมากเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ภายใต้แนวคิด "From Data to Decision" เป้าหมายคือ ลดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ
AI-Powered Strategic Reports มีหลายรูปแบบ เช่น รายงานวิเคราะห์แคมเปญ (Campaign Report) รายงานจับสัญญาณวิกฤต (Crisis Monitoring Report) และ อื่น ๆ โดยมีองค์ประกอบหลัก ได้แก่ Summarize สรุปข้อมูลจำนวนมากให้เข้าใจง่าย, Analyze วิเคราะห์เชิงลึกเพื่อหา Insight และ Recommend เสนอแนะแนวทางปฏิบัติหรือกลยุทธ์
รายงานนี้ทำงานบนพื้นฐานของ Trusted Sources + AI Processing + Structured Template ภายใต้การติดตามข้อมูลแบบมุมมอง 360 องศาจากทุกช่องทาง เก็บข้อมูลครอบคลุมทั้ง Mentions, Sentiment, Engagement และ Consumer Voice
"การใช้ AI จะเปลี่ยนกระบวนการทำรายงานที่เคยใช้เวลาครึ่งวัน หรือ 1-2 วัน ให้ได้ผลลัพธ์เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรายงานวิเคราะห์แคมเปญ หรือการรับมือกับสัญญาณวิกฤต" นายศรุตกล่าวทั้งนี้ ภายในงานสัมมนายังได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายพันธมิตรด้านข่าวสารและสื่อระดับโลกได้แก่ Antara (อินโดนีเซีย), Kyodo (ญี่ปุ่น), Medianet (ออสเตรเลีย), Notified (สหรัฐอเมริกาและทั่วโลก), United News of Bangladesh (บังคลาเทศ), Yonhap (เกาหลีใต้), Xinhua (จีน) และ AsiaNet (เอเชียแปซิฟิก) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือในการผลักดันให้แบรนด์ไทยสามารถเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายทั้งในและต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อตอกย้ำแนวคิดของดาต้าเซ็ตในการส่งเสริมให้ "ทุกแบรนด์เป็น Trusted Source" และสร้างระบบนิเวศข่าวสารที่เชื่อถือได้ในยุค AI
งานสัมมนา "AI-Powered Media Intelligence for Marketing & PR Professionals" จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท โดยบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้เชิญวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายองค์กร ประกอบด้วย นายธีรพล อำไพ ผู้เชี่ยวชาญด้าน MarTech และ AI อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยศรีปทุม นายศรุต อุดมการ Commercial Director บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด นายคมกริช สาคริก ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรการไฟฟ้านครหลวง นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร นางสาวศตกมล วรกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) และนางสาววรางคณา บุญเทียม Crisis & Issues Management Advisor จากดาต้าเซ็ต ร่วมแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลข่าวสารและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากบริษัทและองค์กรชั้นนำกว่า 120 ท่าน