ริชาร์ด ลี ประธานบริษัท พีซีซีดับบลิว (PCCW) ได้เลิกล้มความพยายามที่จะซื้อกิจการบริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์รายใหญ่สุดของฮ่องกง มูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์แล้ว หลังจากที่ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งห้ามทำข้อตกลงดังกล่าว ส่งผลให้หุ้นของ PCCW ร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 8 ปี
ลีและบริษัท ไชน่า ยูไนเต็ด เน็ทเวิร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์ กรุ๊ป ซึ่งเข้าร่วมประมูลด้วยนั้น จะไม่ยื่นข้อเสนอเพื่อซื้อกิจการตามกำหนดเส้นตายวันนี้ โดยหุ้นของบริษัทซึ่งได้กลับมามีการซื้อขายอีกครั้งหลังจากที่ถูกระงับไปตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.นั้น ร่วงลงถึง 14% แตะ 3.54 ดอลลาร์เมื่อเวลา 10.01 น.ตามเวลาท้องถิ่นในฮ่องกง นับเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2543
บลูมเบิร์กรายงานว่า เมื่อวานนี้ ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาค้านศาลชั้นต้น ส่งผลให้ความพยายามของริชาร์ด ลีที่จะเข้าซื้อบริษัทโทรศัพท์รายใหญ่สุดของฮ่องกงต้องล้มเลิกไป ซึ่งคำตัดสินดังกล่าว จะทำให้ลีไม่สามารถเข้าซื้อกิจการบริษัทได้เป็นเวลาอย่างน้อย 12 เดือน หลังจากที่ได้พยายามลดสัดส่วนการถือหุ้นใน PCCW มาแล้วถึง 3 ครั้งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
อนันด์ รามาจันทราน นักวิเคราะห์ของซิตี้กรุ๊ป กล่าวว่า กฎระเบียบต่างๆทำให้ไม่สามารถเข้าซื้อกิจการได้อีก 1 ปี ขั้นตอนการขายหุ้นที่ถูกยกเลิกไปนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าผู้ซื้ออีกกลุ่มไม่เต็มใจจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นตามที่ต้องการ
ซิตี้กรุ๊ปได้ลดอันดับหุ้นลงเหลือ "ขาย" จากเดิมที่ระดับ "ถือครอง" และยังลดคาดการณ์ราคาหุ้นลง 27% เหลือ 3 ดอลลาร์ฮ่องกง
ลี ซึ่งเป็นลูกขายของมหาเศรษฐีฮ่องกง และไชน่า ยูไนเต็ด ได้เสนอซื้อหุ้นที่ราคา 4.50 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้นสำหรับการเทคโอเวอร์บริษัท