เว็บไซต์วิจัยตลาดยานยนต์คาดยอดขาย"โตโยต้า"ในสหรัฐพุ่ง 30% เดือนมี.ค.หลังผุดแคมเปญเงินกู้ปลอดดบ.

ข่าวต่างประเทศ Wednesday March 10, 2010 15:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เว็บไซต์ Edmunds.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์วิจัยตลาดยานยนต์ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองซานตาโมนิกา รัฐแคลิฟอร์เนีย คาดการณ์ว่า ยอดขายรถโตโยต้าในสหรัฐเดือนมี.ค.มีแนวโน้มพุ่งขึ้น 30% เนื่องจากโตโยต้าออกแคมเปญที่สร้างแรงจูงใจให้กับผู้ซื้อ ซึ่งรวมถึงข้อเสนอเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยระยะเวลานานถึง 5 ปี

Edmunds.com ระบุว่า แคมเปญเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยจะช่วยให้ยอดขายของโตโยต้าในสหรัฐมีแนวโน้มแข็งแกร่ง เพราะกลุ่มผู้ซื้อชาวอเมริกันต้องการซื้อสินค้าโดยไม่ต้องแบกภาระเงินกู้มากนัก และยุทธศาสตร์ดังกล่าวของโตโยต้าจะช่วยชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการเรียกคืนรถยนต์ทั่วโลกกว่า 8 ล้านคัน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค คาดว่า แคมเปญเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย 5 ปีอาจส่งผลให้โตโยต้ามีต้นทุนมากขึ้นถึง 1 แสนล้านเยน หรือ 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ คาดว่าการเรียกคืนรถยนต์ในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ เดือนพ.ค. พ.ศ.2553 จะทำให้โตโยต้ามีต้นทุนทั้งสิ้น 3.15 แสนล้านเยน และคาดว่าโตโยต้าจะมีต้นทุนในการยุติคดีความประมาณ 1 แสนล้านเยน

นางเซเลส มิกลอร์ โฆษกของโตโยต้าสาขารัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า ยอดขายรถของโตโยต้า ซึ่งไม่นับรวมรถ Lexus ในช่วง 8 วันแรกของเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 50.5% ขณะที่นายอาคิโอะ โตโยดะ ประธานโตโยต้าคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยอดขายรถโตโยต้าในสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากหดตัวลง 8.7% ในเดือนก.พ. และร่วงลง 16% ในเดือนม.ค.

ผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในอเมริกาซึ่งจัดทำโดยแกลลัป บ่งชี้ว่า 70% ของผู้ใช้รถยนต์โตโยต้ายังคงมั่นใจในคุณภาพของรถยนต์ค่ายนี้ และผู้ใช้ 82% กล่าวว่าพวกเขามีความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย

ออโตดาต้า คอร์ป รายงานว่า ยอดขายรถใหม่ของค่ายโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ในสหรัฐ ลดลง 8.7% ในเดือนก.พ. 2553 แตะที่ระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปีที่ 100,027 คัน ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของโตโยต้าในสหรัฐหดตัวลงสู่ระดับ 12.8% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2548 จากเดือนก.พ.ปี 2552 ที่ระดับ 15.9% ทำให้โตโยต้ากลายเป็นค่ายรถเพียงค่ายเดียวที่มียอดขายลดลงในสหรัฐ

นอกจากนี้ ยอดขายที่ปรับตัวลดลงทำให้สถานะการเป็นค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐของโตโยต้าหล่นลงมาอยู่ที่อันดับสาม ขณะที่เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ก้าวขึ้นมาเป็นค่ายรถยนต์อันดับหนึ่งในสหรัฐ ด้วยยอดขายที่พุ่งขึ้น 12.7% แตะที่ 141,438 คัน ขณะที่ฟอร์ด มอเตอร์ ตามมาเป็นอันดับสองด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 43.5% แตะที่ 137,365 คัน

ทั้งนี้ โตโยต้าได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเหตุการณ์เรียกคืนรถยนต์ 2.21 ล้านคันที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค. พร้อมทั้งประกาศระงับการขายรถยนต์รุ่นที่มีชื่อเสียง 8 รุ่น รวมถึง Camry และ Corolla ตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.จนถึงต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา เนื่องจากปัญหาคันเร่งค้าง โดยรถยนต์รุ่นที่มีชื่อเสียงทั้ง 8 รุ่นคิดเป็นร้อยละ 60 ของยอดขายโดยรวมของโตโยต้าในสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ