นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เชื่อว่า ในปี 54 ตลาดหุ้นไทยยังคงจะได้รับความนิยมและมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ เนื่องจากเป็นช่องทางการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับตลาดอื่น โดยปี 54 คาดว่าจะมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 2.8-3.2 หมื่นล้านบาท/วัน จากปีนี้ที่อยู่ในระดับ 2.7 หมื่นล้านบาท/วัน
นอกจากนี้ ตลท.ยังมีเป้าหมายผลักดันให้มีบริษัทจดทะเบียน(บจ.)เข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาด mai เพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าการซื้อขายตามราคาตลาดรวม(มาร์เก็ตแคป)อีก 1 แสนล้านบาทในปีหน้า โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินระดมทุนของ บจ.ใหม่รวมประมาณ 4 หมื่นล้านบาท
พร้อมกับบริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจเข้ามากระจายหุ้น โดย ตลท.ได้ทำงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) มาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไม่ได้รับความนิยมในการระดมทุนมากเท่ากับแนวทางการออกหุ้นกู้ของบริษัทเอกชน
และในปีหน้า ตลท.จะมีการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น การขยายกองทุน ETF เพิ่มจำนวนกองทุน รวมถึงการศึกษาการออกTransferable Custody Receipt (TCR) และการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของนักลงทุนที่ซื้อขายหุ้นผ่านอินเตอร์เน็ต(อินเตอร์เน็ตเทรดดิ้ง) โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้บริการอินเตอร์เนตแบงก์กิ้งอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ตลท.มีเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักลงทุนรายย่อยซื้อขายหุ้นผ่านอินเตอร์เน็ต 5.2 หมื่นบัญชี เป็นการบัญชีผ่านโบรกเกอร์ 4 หมื่นบัญชี และจากธนาคารพาณิชย์ 1.2 หมื่นบัญชี คาดว่าจะช่วยเพิ่มพอร์ตนักลงทุนบุคคลรายย่อย จากปีนี้ที่มี 6 แสนบัญชี
สำหรับแผนการลงทุนของ ตลท.เพื่อรองรับการแปรรูป มีแผนการลงทุนด้านไอที โดยเฉพาะ IT Trading Platform ในระยะ 5 ปี (ปี 54-58) จำนวน 2 พันล้านบาท ซึ่งจะเป็นการลงทุนในปีหน้า 1 พันล้านบาท เพื่อให้ระบบไอทีของ ตลท.เทียบเท่ามาตรฐานระดับโลก ทำให้สะดวกต่อการซื้อขายระหว่างกันมากขึ้น