ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนตอบรับตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและรายได้ส่วนบุคคลของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นในเดือนต.ค. รวมทั้งจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2551
ดัชนี FTSE 100 พุ่งขึ้น 75.82 จุด หรือ 1.4% ปิดที่ 5,657.10 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นหลังจากร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 พ.ย. ร่วงลง 34,000 ราย แตะระดับ 407,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่รอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 10 ก.ค.2551
ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนต.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 0.4% และรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 5.76 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้น 0.5% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.3%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังขานรับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 0.8% ในไตรมาส 3 ปีนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2 และขยายตัวขึ้น 2.8% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นตามราคาโลหะพื้นฐานในตลาดโลก รวมถึงราคาทองแดงและนิกเกิล โดยหุ้นอันโตฟากัสต้าปิดพุ่งขึ้น 4.3% หุ้นคาซัคมิสปิดบวก 4.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของบีเอ็นพี พาริบาส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นคาซัคมิสขึ้นสู่ระดับ "outperform" จากระดับ "neutral"
หุ้นโพรวิเดนท์ ไฟแนนเชียล ปิดพุ่ง 8.6% หลังจากบริษัทยืนยันว่าแผนการลดงบประมาณการใช้จ่ายของรัฐบาลอังกฤษจะส่งผลกระทบต่อลูกค้าของบริษัทเพียงเล็กน้อยเท่านั้น