รายงานการซื้อขายตลาดอนุพันธ์(TFEX)วันนี้ มีการซื้อขายรวม 25,841 สัญญา เป็น SET50 Index Futures จำนวน 12,105 สัญญา โดยสัญญา S50Z10 มีปริมาณการซื้อขาย 10,119 สัญญา, สัญญา S50H11 มีปริมาณการซื้อขาย 1,679 สัญญา,สัญญา S50M11 มีปริมาณการซื้อขาย 198 สัญญา ส่วนสัญญา S50U11 ปริมาณซื้อขาย 29 สัญญา
ส่วน Single Stock Futures มี 5,243 สัญญา โดยสัญญา ADVANC Futures มีปริมาณการซื้อขาย 15 สัญญา, สัญญา BANPU Futures มีปริมาณการซื้อขาย 18 สัญญา,สัญญา BAY Futures มีปริมาณการซื้อขาย 6 สัญญา ,สัญญา BBL Futures มีปริมาณการซื้อขาย 60 สัญญา, สัญญา ITD Futures มีปริมาณการซื้อขาย 268 สัญญา, สัญญา KBANK Futures มีปริมาณการซื้อขาย 11 สัญญา, สัญญา KTB Futures มีปริมาณการซื้อขาย 3,763 สัญญา,
สัญญา LH Futures มีปริมาณการซื้อขาย 101 สัญญา, สัญญา PTT Futures มีปริมาณการซื้อขาย 19 สัญญา, สัญญา PTTEP Futures มีปริมาณการซื้อขาย 93 สัญญา, สัญญา QH Futures มีปริมาณการซื้อขาย 872 สัญญา และสัญญา TTA Futures มีปริมาณซื้อขาย 17 สัญญา
ขณะที่ สัญญา SCB Futures ,สัญญา SCC Futures ไม่มีสัญญาซื้อขาย
ส่วน Gold Futures มีปริมาณการซื้อขาย 8,008 สัญญา แบ่งเป็นสัญญาละ 50 บาท จำนวน 4,842 สัญญา และ สัญญาละ 10 บาท จำนวน 3,166 สัญญา
Interest Rate Futures ไม่มีปริมาณการซื้อขาย
สำหรับ SET50 Options มีการซื้อขายรวม 485 สัญญา แบ่งเป็นคอลออปชั่น จำนวน 289 สัญญา และพุทออปชั่น จำนวน 196 สัญญา
ดัชนีอ้างอิงวันนี้ SET50 Index อยู่ที่ 726.09 จุด บวก 4.59 จุด (+0.64%)
นายคมสันต์ ปรมาภูติ รองผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า การซื้อขาย Set50 Futures วันนี้ เป็นการ sideway up โดยมีแรงหนุนหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่ยอดการขายบ้านในสหรัฐปรับตัวดีขึ้น แต่ยอดการจ้างงาน ยังไม่ดี ประกอบกับ การที่ประธานเฟด ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ามีโอกาสที่สหรัฐจะใช้เงินมากกว่า 6 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเข้าซื้อ พันธบัตรส่งผลให้มีการเก็งกันว่าจะมีกระแสเงินไหลเข้ามาในเอเซียมากขึ้น ทำให้วันนี้ค่าเงินในภูมิภาคเอเซียปรับตัวแข็งค่าขึ้น และ มีผลทำให้มีเงินไหลเข้ามาตลาดหุ้นมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม มองว่าในช่วงสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า ยังคงมีเงินไหลเข้ามาในตลาดหุ้น โดยต่างชาติยังเป็น net buy อย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากนั้นมองว่าแรงซื้อขายจากต่างชาติจะลดลงเนื่องจากเป็นช่วงวันหยุด แต่จะมีแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน ในประเทศมาทดแทน
"ในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา ต่างชาติมีการ lock profit ไปบ้างแล้วแต่หากมอง outlook โดยรวมเชื่อว่ายังมีเงิน ต่างชาติไหลเข้ามาต่อเนื่องจนถึงสัปดาห์หน้า หลังจากมีข่าวจากเฟด แต่หลังจากนั้นแรงซื้อขายของต่างชาติในตลาดหุ้นคงลดลง แต่จะ มีพวกกองทุนเข้ามาซื้อแทน"นายคมสันต์ กล่าว
การลงทุนช่วงนี้แนะนักลงทุนเปิดสถานะ long โดยมีแนวรับที่ 720 จุด แนวต้าน 735 จุด
ส่วนตลาดทองคำมองยังเป็นขาขึ้น โดยแนะนักลงทุนเปิดสถานะ long ได้ มีแนวรับที่ 1,415-1,420 ดอลลาร์/ ออนซ์ แนวต้านที่ 1,440 ดอลลาร์/ออนซ์
บจ.วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส ออกบทวิเคราะห์ว่า ราคาทองคำแท่งในประเทศได้ทะลุระดับ 20,000 บาท ภายหลังราคาทองคำตลาดโลกได้ทะยานขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์เหนือระดับ 1,400 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการเปิด เผยอัตราการว่างงานสหรัฐประจำเดือน พ.ย.แม้จะลดลงอย่างต่อเนื่องจากการที่ประเทศต่างๆ ซึ่งรวมถึงสหรัฐได้ร่วมมือกันแก้ปัญหา ด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจ
แต่มองว่าอัตราการว่างงานของสหรัฐใน 1 ปีที่ผ่านมานั้นกลับลดลงน้อยมาก ซึ่งเป็นประเด็นที่หนุนให้ราคาทองคำทำสถิติ สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งที่ระดับ 1,427 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์มากขึ้นว่าเฟดจะดำเนินมาตรการเพิ่มเติม เกี่ยวกับการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและให้มุมมองที่เป็นลบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ก็ยิ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าเก็ง กำไรในทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย
ปัจจัยเสี่ยงต่อการปรับขึ้นของราคาทองคำที่นักลงทุนควรจับตาอย่างใกล้ชิดซึ่งอาจทำให้ราคาไม่สามารถขยับขึ้นไปสู่ เป้าหมาย 1,435 (20,250 บาท) และ 1,450(20,480บาท) ดอลลาร์/ออนซ์ คือมาตรการควบคุมเงินเฟ้อและสภาวะฟองสบู่ของ จีนซึ่งล่าสุดเริ่มมีกระแสข่าวว่าทางการจีนอาจมีการปรับดอกเบี้ยในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนต่อประเด็นดัง กล่าวแต่นักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิด
หากทางการจีนมีการปรับดอกเบี้ยขึ้นจริงอาจส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนค่าลงได้นอกจากประเด็นของจีนแล้วนักลงทุนยัง ต้องระวังแรงขายทำกำไรของนักลงทุนกลุ่มเฮดจ์ฟันด์ที่มักจะมีการเทขายทำกำไรออกมาช่วงปิดไตรมาสหรือช่วงสิ้นปีเพื่อนำผลกำไรนั้น ไปสร้างแรงจูงใจให้กับนักลงทุนในปีต่อไป
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้รอซื้อเมื่อราคาย่อตัวมาบริเวณแนวรับ 1,410 (19,900 บาท)หรือ 1,380 (19,500บาท) ดอลลาร์/ออนซ์ หากราคาหลุดแนวรับ 1,380 ดอลลาร์/ออนซ์แนะนำให้ชะลอการเข้าซื้อทันทีสำหรับนักลงทุนที่ยังถือ ครองทองคำอยู่แนะนำรอขายบริเวณเป้าหมายข้างต้น