รายงานการซื้อขายตลาดอนุพันธ์(TFEX)วันนี้ มีการซื้อขายรวม 26,648 สัญญา เป็น SET50 Index Futures จำนวน 5,531 สัญญา โดยสัญญา S50Z10 มีปริมาณการซื้อขาย 4,349 สัญญา, สัญญา S50H11 มีปริมาณการซื้อขาย 1,073 สัญญา,สัญญา S50M11 มีปริมาณการซื้อขาย 86 สัญญา ส่วนสัญญา S50U11 ปริมาณซื้อขาย 23 สัญญา
ส่วน Single Stock Futures มี 13,330 สัญญา โดยสัญญา ADVANC Futures มีปริมาณการซื้อขาย 4 สัญญา, สัญญา BANPU Futures มีปริมาณการซื้อขาย 9 สัญญา, สัญญา BAY Futures มีปริมาณการซื้อขาย 1 สัญญา ,สัญญา BBL Futures มีปริมาณการซื้อขาย 33 สัญญา, สัญญา ITD Futures มีปริมาณการซื้อขาย 2,457 สัญญา, สัญญา KBANK Futures มี ปริมาณการซื้อขาย 4 สัญญา, สัญญา KTB Futures มีปริมาณการซื้อขาย 2,400 สัญญา,
สัญญา LH Futures มีปริมาณการซื้อขาย 45 สัญญา, สัญญา PTT Futures มีปริมาณการซื้อขาย 21 สัญญา, สัญญา PTTEP Futures มีปริมาณการซื้อขาย 97 สัญญา, สัญญา QH Futures มีปริมาณการซื้อขาย 7,888 สัญญา ,สัญญา SCB Futures มีปริมาณการซื้อขาย 1 สัญญา และสัญญา TTA Futures มีปริมาณซื้อขาย 370 สัญญา
ขณะที่ สัญญา SCC Futures ไม่มีการซื้อขาย
ส่วน Gold Futures มีปริมาณการซื้อขาย 7,566 สัญญา แบ่งเป็นสัญญาละ 50 บาท จำนวน 5,084 สัญญา และ สัญญาละ 10 บาท จำนวน 2,482 สัญญา
Interest Rate Futures ไม่มีปริมาณการซื้อขาย
สำหรับ SET50 Options มีการซื้อขายรวม 221 สัญญา แบ่งเป็นคอลออปชั่น จำนวน 141 สัญญา และพุทออปชั่น จำนวน 80 สัญญา
ดัชนีอ้างอิงวันนี้ SET50 Index อยู่ที่ 723.68 จุด บวก 3.85 จุด (+0.53%)
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บล.ซิกโก้ กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้แกว่งตัวในกรอบแคบตามทิศทางตลาดต่างประเทศ เนื่องจากชะลอการลงทุน เพื่อรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ในวันที่ 14-15 ธ.ค.ซึ่งจะมีรายงานการประชุมมองแนวโน้มเศรษฐกิจช่วง 3 - 6 เดือน หากยังกังวลกับภาวะเศรษฐกิจ เฟดก็อาจจะอัดฉีดเม็ดเงินมาตรการ QE2 ได้ ในทางกลับกันหากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นตลาดหุ้นดาวน์โจนส์ขึ้นตอบรับ
"ถ้าลงให้เปิด long ถ้าขึ้นไม่ต้องตาม เราให้เปิด long เมื่ออ่อนตัว ตอนนี้ไม่อยากแนะนำให้ short เพราะ วอลุ่มบาง"นายศราวุธ กล่าว
ให้แนวรับไว้ที่ 720 จุด และแนวต้านที่ 730 จุด
ส่วนทองคำก็รอผลการประชุมเฟดเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี แนะนำให้เปิดสถานะ long หากราคาปรับลงมา โดย ให้แนวรับที่ 20,000 บาท และแนวต้านที่ 20,150 บาท
ด้านนางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผย ถึงทิศทางทองคำในสัปดาห์นี้ว่า วายแอลจียังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากประเมินว่าแรงขายทำกำไรในสัปดาห์ที่ผ่าน มา ได้ทำให้ราคาทองคำมีการปรับฐานระยะสั้นไปแล้ว ทำให้สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีโอกาสที่จะไต่ระดับขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1,410 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศมีโอกาสแตะระดับ 2 หมื่นบาทอีกครั้ง ในขณะที่ทางวายแอลจี ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,370 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือ 19,500 บาท/บาททอง
สำหรับปัจจัยที่นักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิดในสัปดาห์นี้ก็คือการประชุมของผู้นำรัฐบาลกลุ่มยุโรปที่จะมีขึ้นในวันที่ 16- 17 ธ.ค.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับ วิกฤติหนี้สินที่ลุกลามของยูโรโซน โดยมีการคาดการณ์ความคืบหน้าอยู่ในระดับต่ำ หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ ผ่านมาเยอรมนีและฝรั่งเศสปฏิเสธเสียงเรียกร้องในการเพิ่มกองทุน ช่วยเหลือและการออกพันธบัตรร่วม
หากผลการประชุมดังกล่าวยังไม่สามารถสร้างเสถียรภาพให้กับระบบเศรษฐกิจในยุโรปหรือได้มีการแสดงให้เห็นถึงควม ขัดแย้งมากขึ้นแล้วละก็อาจส่งผลให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยก็เป็นได้