ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐและยุโรป ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวแข็งแกร่งในปี 2554
ดัชนี FTSE 100 ทะยานขึ้น 113.93 จุด หรือ 1.93% ปิดที่ 6,013.87 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,899.94 - 6,049.45 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นขานรับรายงานของมาร์กิต อิโคโนมิคส์ที่ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของยุโรปขยายตัวสู่ระดับ 57.1 จุดในเดือนธ.ค. จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 55.3 จุด ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.ขยายตัวที่ระดับ 57 จุด เพิ่มขึ้นจากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 56.6 จุด และทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว
หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปิดพุ่ง 1.1% หุ้นแองโกล อเมริกันปิดบวก 2.1% ส่วนหุ้นบีพี ปิดพุ่ง 5.9%
หุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดพุ่ง 4.1% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดบวก 4.2%
เนชั่นไวด์ บิลดิ้ง โซไซตี้เปิดเผยว่า ราคาบ้านโดยเฉลี่ยในอังกฤษประจำเดือนธ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% แตะระดับ 162,763 ปอนด์ หรือ 250,200 ดอลลาร์สหรัฐ ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนแรกในรอบ 7 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2%
สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษได้ปรับทบทวนการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ลงสู่ระดับ 0.7% จากตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 0.8% นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ ยังได้ปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในไตรมาส 2 ลงสู่ระดับ 1.1% จาก 1.2% ด้วย เนื่องจากอัตราการขยายตัวในภาคการก่อสร้าง การบริการทางธุรกิจ และการผลิต ชะลอตัวลง