นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บมจ.ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย)(TFEX)เปิดเผยว่า ในปี 54 ตลาดอนุพันธ์คาดว่าจะมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันขั้นต่ำ 20,000 สัญญา/วัน โดยจะให้ความสำคัญกับการเพิ่มสภาพคล่องของสินค้าที่มีอยู่ โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการซื้อขายร่วมกับบริษัทสมาชิก เพื่อให้ข้อมูลความรู้ด้านกลยุทธ์การซื้อขายแก่ผู้ลงทุน รวมทั้งส่งเสริมให้มีบทวิเคราะห์เกี่ยวกับการซื้อขายมากขึ้น
พร้อมทั้งจะออกสินค้าใหม่เพิ่มเติมเพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุน ได้แก่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับโลหะเงิน และน้ำมัน รวมถึงการขยายเวลาการซื้อขายในช่วงกลางคืน เพื่อให้ผู้ลงทุนที่ซื้อขายสินค้าที่อ้างอิงกับสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายตลอดเวลาทั่วโลก เช่น ทองคำ เงิน เป็นต้น สามารถบริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น
สำหรับผลการดำเนินงานของ TFEX ในภาพรวมของปี 53 เป็นที่น่าพอใจ โดยมีปริมาณการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 4,519,436 สัญญา หรือเฉลี่ย 18,676 สัญญา/วัน เติบโตจากปีก่อนหน้า ซึ่งมีการซื้อขายเฉลี่ยที่ระดับวันละ 12,771 สัญญา เพิ่มขึ้นถึง 46% และสูงกว่าเป้าหมายที่มีการตั้งไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 20%
ปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญมาจากการเติบโตของ Single Stock Futures ที่มีการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นถึง 5.6 เท่าโดยเพิ่มจาก 145,758 สัญญาในปี 52 เป็น 969,353 สัญญา ในปี 53 เนื่องจากผู้ลงทุนเริ่มคุ้นเคยกับการซื้อขาย Single Stock Futures และสามารถใช้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนและบริหารความเสี่ยงในภาวะที่ตลาดหุ้นมีความร้อนแรง
นอกจากนี้ การซื้อขาย Gold Futures ก็ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุน โดยมีปริมาณซื้อขายสูงขึ้นเกือบ 2 เท่า จากการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ระดับ 1,397 สัญญาในปี 52 มาเป็น 4,014 สัญญาหรือคิดเป็นมูลค่า 3,143 ล้านบาทในปี 53 อันเป็นผลจากการเปิดซื้อขาย Gold Futures ขนาด 10 บาท เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา รวมถึงการจัดกิจกรรม “โกลด์ฟิวเจอร์สสัญจร" เพื่อส่งเสริมความรู้แก่ผู้ลงทุนในทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Gold Futures 10 บาท มีการซื้อขายเฉลี่ยวันละ 1,716 สัญญา หรือเป็นมูลค่า 327 ล้านบาท
ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 ธ.ค.53 ตลาดอนุพันธ์มีสถานะคงค้างรวม 77,955 สัญญา เพิ่มขึ้น 175% จากจำนวน 28,281 สัญญาในปีก่อนหน้า และมีจำนวนบัญชีซื้อขายอนุพันธ์รวมทั้งสิ้น 41,880 บัญชี เพิ่มขึ้น 42% จากสิ้นปี 52 ที่มี 29,546 บัญชี โดยผู้ลงทุนรายบุคคลในประเทศมีสัดส่วนการซื้อขาย 57.21% ผู้ลงทุนต่างประเทศ 10.09% และผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ 32.70%
ทั้งนี้ สัดส่วนของผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกรรมของผู้ดูแลสภาพคล่อง อันเป็นผลจากการเพิ่มอนุพันธ์ประเภทใหม่ Single Stock Futures และ Gold Futures รวมทั้ง Interest Rate Futures ในปี 2553
โบรกเกอร์อนุพันธ์ที่มีปริมาณการซื้อขายโดยรวม สูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ บล. โกลเบล็ก มีสัดส่วนการซื้อขาย 13.40% บล. ฟิลลิป (ประเทศไทย) 9.25% บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) 7.91% บล. ทรีนีตี้ 6.10% และ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) 5.64% ตามลำดับ
โบรกเกอร์ที่มีการซื้อขาย Gold Futures สูงสุด 5 อันดับแรก มีสัดส่วนการซื้อขายรวมกันถึง 63.89% และเป็นโบรกเกอร์ที่มีการประกอบธุรกิจด้านทองคำในเครือทั้งสิ้น ได้แก่ บล. โกลเบล็ก มีสัดส่วนการซื้อขาย 20.98% บ. เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ 15.12% บ. ออสสิริส ฟิวเจอร์ส 13.91% บ. วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส 7.77% และ บ. ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส 6.11% ตามลำดับ