ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธันวาคม 2553 ที่ขยายตัวน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 22.55 จุด หรือ 0.19% แตะที่ 11,674.76 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 2.35 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 1,271.50 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 6.72 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ระดับ 2,703.17 จุด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (nonfarm payrolls) ประจำเดือนธันวาคม 2553 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 103,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 140,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวลดลงสู่ระดับ 9.4% ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในปี 2553 ที่อัตราว่างงานรายเดือนร่วงลงมาอยู่ต่ำกว่า 9.5%
โดยภาคอุตสาหกรรมด้านสันทนาการและบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 47,000 ตำแหน่ง ภาคอุตสาหกรรมด้านการดูแลสุขภาพมีอัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้น 36,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวเลขจ้างงานในอุตสาหกรรมการบริการภาคธุรกิจขยายตัวต่อเนื่อง 16,000 ตำแหน่ง และภาคอุตสาหกรรมค้าปลีกมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 12,000 ตำแหน่ง ส่วนภาคการผลิตเพิ่มการจ้างงาน 10,000 ตำแหน่ง สวนทางกับการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ลดลง 16,000 ตำแหน่ง
สำหรับอัตราว่างงานสหรัฐนั้น นักวิเคราะห์เชื่อว่า สหรัฐยังต้องอาศัยเวลาอีกนานกว่าที่อัตราว่างงานจะกลับไปเคลื่อนไหวในระดับเดียวกับเมื่อครั้งก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า อัตราว่างงานของสหรัฐจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 8.9 - 9.1% ในปี 2554
ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา สหรัฐมีตัวเลขการจ้างงานเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยที่ 128,000 ตำแหน่ง และนักลงทุนเชื่อว่า ตัวเลขจ้างงานจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อเศรษฐกิจและมีอิทธิพลต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้น
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงฉุดตลาดปิดเคลื่อนไหวในแดนลบเมื่อคืนนี้ โดยมีหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ผู้ปล่อยกู้จำนองรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐตกลง 1% ขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกน และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ร่วงลง 2%