ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ม.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าหลายประเทศในยุโรปที่ประสบปัญหาหนี้สินอาจไม่สามารถชำระคืนหนี้ได้ตามกำหนด
ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 28.03 จุด หรือ 0.47% แตะที่ 5,956.30 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,939.89 - 5,984.33 จุด
นักลงทุนวิตกกังวลว่าปัญหาหนี้สาธารณะอาจลุกลามไปทั่วยุโรป หลังจากมีรายงานว่า ต้นทุนการรับประกันการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรยุโรปได้ปรับตัวขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันจันทร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประมูลขายพันธบัตรของรัฐบาลโปรตุเกสในวันที่ 12 ม.ค. และการประมูลขายพันธบัตรของรัฐบาลสเปนในวันที่ 13 ม.ค.นี้
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นคาซัคมิสซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่สุดของคาซัคสถานปิดร่วง 2.5% หลังจากราคาโลหะทองแดงในตลาดลอนดอนร่วงลงติดต่อกัน 5 วันทำการ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่จีนลดการนำเข้าทองแดงในเดือนธ.ค.
ขณะที่หุ้นแองโกลอเมริกันปิดร่วง 1.7% หุ้นเอ็กซ์สตราต้า ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่อันดับ 4 ของโลกปิดลบ 1% นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์ส รายงานว่า เอ็กซ์สตราต้าอาจเข้าซื้อกิจการถ่านหินของบริษัท ดรัมมอนด์ หลังจากบริษัท เวแดนต้า รีซอสเซส และเอสซาร์ โกลบอล ประสบปัญหาด้านการเงินในการเข้าเทคโอเวอร์กิจการดรัมมอนด์
หุ้นบีพีร่วงลง 1.3% หลังจากบริษัท Alyeska Pipeline Service Co. ประกาศปิดท่อส่งน้ำมัน Trans Alaska Pipeline System ซึ่งส่งผลให้บีพีต้องระงับการผลิตน้ำมันในเขตนอร์ธสโลปของรัฐอะแลสกา