ตุงกู ยาอาคอบ บิน ตุงกู อับดุลลาห์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท มาลาวา อินดัสเตรียล กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ของ บมจ. สยาม พาวเวอร์ เจนเนอเรชั่น คาดว่า สยาม พาวเวอร์ ฯ จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในช่วงเดือน มิ.ย. 54 โดยวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาเงินลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม เฟสที่ 2 กำลังการการผลิต 110 เมกะวัตต์ เบื้องต้นใช้เงินลงทุน 130 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ บริษัทคาดหวังจากการระดมทุนจากการเข้าจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งหากบริษัทขายหุ้น IPO ออกไปจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของกลุ่ม มาลาวา อินดัสเตรียล กรุ๊ป ลดลงเหลือประมาณ 70-75% จากปัจจุบันที่ถืออยู่ 96% ทั้งนี้ ได้แต่งตั้ง บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) และ บง.แอดวานซ์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
"เฟสสอง คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 130 ล้านเหรียญสหรัฐ เงินลงทุนก็มาจากทั้งเงินกู้โครงการและส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและสามารถจ่ายไฟได้ในช่วงกลางปี 56 ซึ่งบริษัทมีแผนจะขายไฟฟ้าให้กับ EGAT ทั้ง 100%" ประธานกรรมการ กล่าว
ในปี 54 บริษัทตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้า จำนวน 100 ล้านเหรียญ
นอกจากนั้น บริษัทมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมเป็น 380 เมกะวัตต์ภายในอีก 5 ปี โดยมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเฟสที่ 3 กำลังการผลิต 110 เมกะวัตต์ ซึ่งจะก่อสร้างหลังจากเฟสที่ 2 แล้วเสร็จ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 18-24 เดือน
ในวันนี้ สยามพาวเวอร์ฯ ได้มีการเปิดตัวโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม กำลังการผลิต 160 เมกะวัตต์ (เฟส 1) ซึ่งใช้เงินลงทุน 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่สวนอุตสาหกรรม SPP อ.บางค่าย จ.ระยอง ปัจจุบันบริษัทได้เริ่มจ่ายกระแสไฟฟ้าเมื่อ 29 ธ.ค.53 โดยได้มีการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) 90 เมกะวัตต์ เป็นระยะเวลา 25 ปี ที่เหลืออีก 70 เมกะวัตต์ ขายให้กับบมจ.จีสตีล (GSTEEL) ส่วนไอน้ำที่เป็นผลพลอยน้ำจากการผลิตไฟฟ้า บริษัทส่งให้บริษัท สยาม ไอซ์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจห้องเย็นที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน