UNIQศึกษาลงทุนเขื่อนพลังน้ำในลาวสร้างรายได้ยาว/เป้าปี 54รายได้ 4พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 18, 2011 10:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนที พานิชชีวะ ประธานกรรมการ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(UNIQ)กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนที่จะสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว จากงานที่บริษัทถนัดและใช้ความสามารถในการก่อสร้างเข้ามามีส่วนสนับสนุน ได้แก่ โครงการพลังงานน้ำในประเทศลาว และธุรกิจกำจัดขยะ

จากการศึกษาในเบื้องต้นในโครงการพลังงานน้ำในลาวพบว่า ขณะนี้รัฐบาลลาวได้ให้สัมปทานโครงการส่วนใหญ่ไปหมดแล้ว หากบริษัทต้องการเข้าไปลงทุนก็จะต้องติดต่อกับผู้ที่ได้รับสัมทาน และซื้อกิจการต่อหรือเข้าไปร่วมทุน แต่เท่าที่ติดต่อมาแล้ว 3 รายยังพบว่าค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงอาจไม่คุ้ม ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่จะเข้าไปลงทุนในขณะนี้

เหตุผลที่บริษัทต้องการเข้าไปธุรกิจนี้ เนื่องจากบริษัทสามารถใช้ประสบการณ์ด้านการก่อสร้างที่เป็นจุดเด่นให้เป็นประโยชน์ในการบริหารโครงการและประหยัดต้นทุน และเมื่อขายไฟฟ้าให้กับรัฐบาลไทยได้ก็จะมีรายได้ต่อเนื่องอย่างน้อย 30 ปี ซึ่งเป็นรายได้ที่มีความแน่นอน และคาดการณ์ได้แน่นอนกว่าจะได้รับงานก่อสร้าง ทำให้บริษัทจะมีรายได้จากสองส่วน ซึ่งช่วยสร้างสมดุลของรายได้ เป็นการบริหารความเสี่ยง หากบริษัทมีรายได้ที่แน่นอนในทางหนึ่ง

"ผมเองไม่อยากเร่ง เพราะผมมองว่าเราเป็น public company เราก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นให้ดีที่สุด เราไม่ต้องการความหวือหวา กระโดดขึ้นกระโดดลง ซึ่งมองว่าการกระโดดเร็วมันไม่ยั่งยืน เราไม่จำเป็นต้องเป็นเบอร์หนึ่ง แต่ขอให้เราไปได้อย่างมั่นคง ผมถึงไม่อยากว่าต้องได้งานเยอะ เราต้องคัดงาน เราไม่อยากมีปัญหาที่มีความเสี่ยง โดยมองบางงานที่มีความเสี่ยงก็จะไม่เข้าไป ...ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเราจะได้ทำไหม อย่างไรก็ตาม การลงทุนใดๆ ไม่มีที่ไม่เสี่ยง เพียงแต่ว่าเราต้องใจเย็นๆ ขอให้มีโอกาสที่คิดว่าเป็นโอกาสจริงๆ เราถึงจะเดินไป" กรรมการผู้จัดการ UNIQ กล่าว

สำหรับธุรกิจกำจัดขยะ นายนที กล่าวว่า จากที่ศึกษาธุรกิจนี้ยังเป็นไปได้ยากในขณะนี้ เพราะคนทั่วไปยังมองว่าไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะ เนื่องจากทางการเคยให้บริการโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย ฉะนั้น จึงต้องเปลี่ยนแปลงความคิดให้ทุกคนต้องรับผิดชอบภาระค่ากำจัดขยะ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่เกิดการลงทุนของเอกชน

"ทุกวันนี้คิดว่าเป็นของฟรี ก็จะไม่เกิดการลงทุนของเอกชน เพราะเอกชนต้องลงทุน ถ้าตรงนี้ยังไม่เกิด และถ้าไม่มากพอ รัฐก็ต้องทำเอง เท่าที่บริษัทเคยเจรจาไปโอกาสที่จะลงทุนเท่าที่ดูยังน้อยอยู่"นายนที กล่าว

*เป้าปี 54 รายได้แตะ 4 พันลบ.ตุน backlog แล้ว 1.2 หมื่นลบ.

นายนที คาดว่าในปี 54 จะสามารถรับรู้รายได้ 4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 53 ที่คาดว่าจะประมาณกว่า 3 พันล้านบาท จากงานในมือ (Backlog) ที่มีอยู่จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิในปี 54 คาดจะทำได้ใกล้เคียงปี 53 ที่ประมาณ 5% ซึ่งเป็นผลจากการล็อกราคาวัสดุก่อสร้างใว้ทั้งโครงการ ทำให้ต้นทุนไม่ผันผวน

"เราคิดว่ายอดขายปีนี้เราคงทำอยู่ประมาณ 4 พันล้านบาท หรือแติบโตอย่างน้อย 10% จาก Backlog ทีมี 1.2 หมื่นล้านบาท โดยปีที่แล้วทำรายได้กว่า 3 พันล้านบาท...ผมว่าการเติบโตของยอดขายน่าจะสัมพันธ์กับ industry คงไม่ต่ำกว่าภาพรวมเฉลี่ย มองว่าปี 54 จะเติบโตไม่มากนัก เพราะการสร้างอาคารเอกชนน่าจะชะลอตัว"นายนที กล่าว

นอกจากนี้ ในปีนี้คาดหวังได้งานใหม่จากงานรถไฟฟ้าอย่างน้อย 2 สัญญา และงานจากกรุงเทพมหานคร(กทม.) ที่คาดว่าจะได้รับงานใหม่ประมาณ 1 พันล้านบาท

งานหลักในปี 54 จะได้งานจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินสัญญา 3 ทางยกระดับช่วงเตาปูน-ท่าพระ ระยะทาง 11 กม.มูลค่าโครงการ 11,353 ล้านบาท โดย UNIQ ร่วมกับบริษัท Sinohydro Corporation Limited จากจีน สัดส่วนถือหุ้น 60% และ 40% ตามลำดับ โดยอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา ซึ่งจะเป็นงานสำคัญในปีนี้ จากที่เลื่อนมาจากเดือน ธ.ค. 53 และกำลังรอการยืนยันจากทางการ

"ปีนี้คาดว่าจะได้งานใหม่จากสายสีน้ำเงิน และอยากได้อีกสักงานรถไฟฟ้าอีกงานหนึ่ง ซึ่งก็ต้องรอดูว่าจะมีการเลื่อนโครงการอีกหรือไม่"นายนที กล่าว

ที่ผ่านมา UNIQ ได้ยื่นเอกสารประกวดราคารถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ระยะทาง 26 กม.สัญญาที่ 1-2 โดย UNIQ ร่วมกับบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(STEC) ในชื่อกลุ่มเอส.ยู.จอยท์เวนเจอร์ โดยสัญญาที่ 1 มีมูลค่า 2.8 หมื่นล้านบาท ส่วนสัญญาที่ 2 มีมูลค่า 1.8 หมื่นล้านบาท

ปัจจุบัน บริษัทมี Backlog ที่ 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง(บางซื่อ - ตลิ่งชัน)โดยงานสายสีแดงทียังมีมูลค่างานเหลือประมาณ 5 พันล้านบาท ต้องใช้เวลา 2-3 ปีจึงจะแล้วเสร็จ โดยไม่มีงานเอกชนเลย

ขณะที่อัตรากำไรสุทธิจะอยู่ที่ประมาณ 5% ในปี 54 ใกล้เคียงปี 53 โดยแต่ละงานจะล็อกราคาวัสดุก่อสร้าง ตลอดระยะเวลางานเพื่อไม่ให้แตกต่างไปจากตอนยื่นประมูลมากนัก หรือเพื่อลดความผันผวน ได้แก่ งานรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ