ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากยุโรป จีน และสหรัฐ เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตแข็งแกร่ง ในขณะที่อัตราว่างงานของสหรัฐปรับตัวลดลงในเดือนม.ค.
ดัชนี FTSE 100 ดีดขึ้น 53.65 จุด หรือ 0.89% ปิดที่ 6,051.03 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,996.61 - 6,054.09 จุด
นักลงทุนมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.ของสหรัฐขยายตัวที่ระดับ 60.8 จุด พุ่งขึ้นจากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 58.5 จุด ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 18 ส่วนดัชนีภาคการผลิตของยุโรปขยายตัวสู่ระดับ 57.1 จุดในเดือนธ.ค. จากเดือนพ.ย.ที่ระดับ 55.3 จุด
นอกจากนี้ ดัชนีภาคการผลิตของจีนในเดือนม.ค.ขยายตัวที่ระดับ 52.9 จุด และดัชนีภาคการผลิตของอังกฤษในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 62 จุด จากระดับ 58.7 จุดของเดือนธ.ค. ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว
หุ้นเคร์น เอนเนอร์จี ปิดพุ่ง 2.1% หลังจากบริษัทประกาศแผนการขายบริษัทในเครือในประเทศอินเดียมูลค่า 9.6 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอสเซส ปิดพุ่ง 2.6% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัท
หุ้นเร็กแซม ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มรายใหญ่ของโลก ปิดบวก 3.4% หลังจากหนังสือพิมพ์เดอะเมลล์รายงานว่า เร็กแซมได้ว่าจ้างธนาคารบาร์เคลย์ส แคปิตอล เป็นผู้ดำเนินการขายบริษัทในเครือ มูลค่า 200 ล้านปอนด์ หรือ 322.1 ล้านดอลลาร์
หุ้นเยลล์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ตีพิมพ์สมุดโทรศัพท์เยลโล่ เพจเจส ของอังกฤษ ปิดบวก 5%