ตลาดหุ้นยุโรปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ทะยานขึ้นขานรับข้อมูลการค้าระหว่างประเทศที่แข็งแกร่งของจีน รวมทั้งสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในอียิปต์ที่คลี่คลายไปในทางที่ดี หลังจากนายฮอสนี มูบารัค ประธานาธิบดีอียิปต์ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้น 25.43 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 7,396.63 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 7,378.41 - 7,424.36 จุด
ดัชนี STOXX EUROPE 600 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานพุ่งขึ้น 1.57% หลังจากราคาทองแดงในตลาดโลกพุ่งขึ้น
ดัชนี FTSEurofirst 300 หุ้นกลุ่มบลูชิพในยุโรปดีดขึ้น 3.73 จุด หรือ 0.32% ปิดที่ 1,177.86 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,175.90 - 1,182.80 จุด
อย่างไรก็ตาม ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดขยับลง 4.69 จุด หรือ 0.11% แตะที่ 4,096.62 จุด
และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษ ปิดลบ 2.81 จุด หรือ 0.05% แตะที่ 6,060.09 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นหลังจากทางการจีนเปิดเผยว่า มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของจีนในเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 43.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 2.9501 แสนล้านดอลลาร์ โดยยอดส่งออกขยายตัว 37.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 1.5073 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 51% แตะที่ 1.4428 แสนล้านดอลลาร์
หุ้นจอห์น วู๊ด กรุ๊ป ปิดพุ่ง 14% หลังจากมีรายงานว่าบริษัท เจนเนอรัล อิเล็กทริก ตกลงซื้อกิจการบางส่วนของจอห์นวู๊ด มูลค่า 2.8 พันล้านดอลลาร์
หุ้นเครดิต สวิส ปิดบวก 1.9% หลังจากมีรายงานว่าธนาคารจะขายกิจการ CoCos มูลค่า 6 พันล้านฟรังก์ ให้กับบริษัท กาตาร์ โฮลดิ้ง แอลแอลซี และโอลายัน กรุ๊ป
นักลงทุนจับตาดูการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) เดือนม.ค.ของจีนในวันนี้ หลังจากนักวิเคราะห์ของไชน่า ซิเคียวริตีส์ เจอร์นัล คาดว่า ดัชนีซีพีไอเดือนม.ค.ของจีนอาจจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 5% ซึ่งสูงกว่าระดับเป้าหมายของรัฐบาล เนื่องจากราคาอาหารพุ่งสูงขึ้น