รายงานการซื้อขายตลาดอนุพันธ์(TFEX)วันนี้ มีการซื้อขายรวม 32,178 สัญญา เป็น SET50 Index Futures จำนวน 15,524 สัญญา โดยสัญญา S50H11 มีปริมาณการซื้อขาย 13,698 สัญญา,สัญญา S50M11 มีปริมาณการซื้อขาย 1,765 สัญญา ส่วนสัญญา S50U11 ปริมาณซื้อขาย 51 สัญญา และ สัญญา S50Z11 มีปริมาณการซื้อขาย 10 สัญญา
ส่วน Single Stock Futures มี 4,444 สัญญา โดย สัญญา ADVANC Futures มีปริมาณการซื้อขาย 9 สัญญา , สัญญา BANPU Futures มีปริมาณการซื้อขาย 18 สัญญา, สัญญา BAY Futures มีปริมาณการซื้อขาย 10 สัญญา, สัญญา BBL Futures มีปริมาณการซื้อขาย 14 สัญญา, สัญญา ITD Futures มีปริมาณการซื้อขาย 247 สัญญา ,สัญญา KBANK Futures มี ปริมาณการซื้อขาย 11 สัญญา,สัญญา KTB Futures มีปริมาณการซื้อขาย 3,790 สัญญา
สัญญา LH Futures มีปริมาณการซื้อขาย 64 สัญญา, สัญญา PTT Futures มีปริมาณการซื้อขาย 27 สัญญา, สัญญา PTTEP Futures มีปริมาณการซื้อขาย 208 สัญญา, สัญญา QH Futures มีปริมาณการซื้อขาย 18 สัญญา, สัญญา SCB Futures มีปริมาณการซื้อขาย 2 สัญญา และสัญญา TTA Futures มีปริมาณซื้อขาย 26 สัญญา
ขณะที่ สัญญา SCC Futures ไม่มีการซื้อขาย
ส่วน Gold Futures มีปริมาณการซื้อขาย 11,889 สัญญา แบ่งเป็นสัญญาละ 50 บาท จำนวน 6,330 สัญญา และ สัญญาละ 10 บาท จำนวน 5,559ญา
ขณะที่ Interest Rate Futures ไม่มีปริมาณการซื้อขาย
สำหรับ SET50 Options มีการซื้อขายรวม 321 สัญญา แบ่งเป็นคอลออปชั่น จำนวน 163 สัญญา และพุทออปชั่น จำนวน 158 สัญญา
ดัชนีอ้างอิงวันนี้ SET50 Index อยู่ที่ 689.35 จุด บวก 7.17 จุด (+1.05%)
นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Futures วันนี้ เริ่มกลับมารีบาวน์หลังจากวานนี้ลงไปแรง โดยมีแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ และ ข่าวลือเกี่ยวกับ พันเอกมู อัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ที่ถูกยิงเสียชีวิต ทำให้นักลงทุนผ่อนคลายความกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และเรื่องราคาน้ำมัน จากก่อนหน้านี้ที่ไม่มีทางออกกับปัญหาในลิเบีย ทำให้ตลาดโดยรวมปรับตัวขึ้นมาได้
แนวโน้มในสัปดาห์หน้า หากปัจจัยภายนอกประเทศคลายลง ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศดี ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในช่วง กลางปีนี้ จะทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นได้ แต่หากปัจจัยภายนอกยังเป็นลบก็ยังกดดดันตลาดอยู่
ดังนั้น จึงแนะนำให้เปิดสถานะ long แบบมี stop (หรือตัดขาดทุน) เพราะมองภาพตลาดหุ้นในระยะกลางยังดีอยู่ ถ้า สถานการณ์ในลิเบียจบหุ้นก็จะปรับตัวขึ้นได้ แต่ควรต้องมีตัดขาดทุนหากราคาลงไป เพื่อจำกัดความเสี่ยงขาลง
มองแนวรับไว้ที่ 668, 664 จุด และ แนวต้าน 690 และ 700 จุด สำหรับสัญญา H11
สำหรับทองคำ มองว่า แนวต้านหลักอยู่ที่ 1,410 , 1,420 เหรียญ/ออนซ์ แนะนำให้ทยอยขายลดพอร์ต แล้วออกมายืน ดูหากผ่านแนวต้านหลักได้ค่อยซื้อต่อ โดยแนะให้ปิดสถานะ long แต่ยังไม่แนะให้เปิดสถานะ short หากสามารถผ่านแนวต้านหลัก ไปได้จะมีโอกาสปรับขึ้นได้อีกมาก ดังนั้น หากราคาทองคำผ่านแนวต้านหลักได้ค่อยกลับมาซื้อเพิ่ม