MCOTคาดปี 54รายได้โต10%รับผลดีปรับผัง-ขึ้นค่าโฆษณา,ร่วมกทม.พัฒนาที่ดิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday March 2, 2011 13:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.อสมท(MCOT) คาดว่า รายได้ในปี 54 จะเติบโตราว 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 5.6 พันล้านบาท โดยพยายามจะรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 25% เอาไว้

บริษัทคาดว่าปีนี้จะมีรายได้จากนิวมีเดียเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยมีเป้าหมาย 200 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากบรอดแบนด์ทีวี เคเบิลทีวี และโมบายทีวี ซึ่งในปีนี้จะมีช่องเคเบิลทีวีภายใต้การบริหารและให้เช่าเพิ่มเป็นเกินกว่า 20 ช่อง

สำหรับแผนการลงทุนในปีนี้ บริษัทเตรียมงบลงทุน 854 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ลงทุนในธุรกิจเคเบิลทีวีและนิวมีเดีย 200 ล้านบาท ลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพอุปกรณ์ถ่ายทอด 500 ล้านบาท และลงทุนในโครงการพัฒนาที่ดิน 50 ไร่ ประมาณ 100 ล้านบาท

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า แผนการพัฒนาที่ดินของบริษัทดังกล่าวมีข้อตกลงที่จะดำเนินการร่วมกับกรุงเทพมหานคร(กทม.) เพื่อพัฒนาเป็นสนามฟุตซอลระดับโลก โดย กทม.ได้อนุมัติงบประมาณมาแล้ว 1.3 พันล้านบาท แต่ยังต้องจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันเพื่อดำเนินการในรายละเอียด ซึ่งคาดว่ายังต้องใข้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง

ดังนั้น ในเบื้องต้นบริษัทก็จะมีการพัฒนาพื้นที่ประมาณ 20 ไร่เพื่อใช้ประโยชน์ในระยะนี้ไปก่อน ด้วยการติดตั้งโดมแอร์ขนาดใหญ่เป็นการชั่วคราว เพื่อเน้นใช้เป็นพื้นที่จัดคอนเสิร์ตและอีเวนท์ต่าง ๆ เริ่มจากคอนเสิร์ต 30 ปีคาราบาว แต่เชื่อว่าแผนการพัฒนาเต็มรูปแบบจะมีข้อสรุปได้ภายในปีนี้

นายเขมทัต พลเดช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ MCOT กล่าวว่า ในไตรมาส 1/54 รายได้ของบริษัทน่าจะออกมาดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมียอดจองโฆษณาเข้ามาเต็มทั้งหมดแล้ว และในช่วงต้นปีก็มีการปรับเพิ่มอัตราค่าโฆษณาประมาณ 5-10% ในเวลารายการ 80% ของทั้งหมด และในเดือน มี.ค.ก็จะมีการปรับผังรายการใหม่ ซึ่งรายการที่ใหม่จะคิดอัตราค่าโฆษณาในเรทใหม่ด้วย

ประกอบกับ ในเดือน มี.ค.54จะมีอีเว้นท์จำนวนมาก ทั้งคอนเสิร์ต 30 ปีคาราบาว, คอนเสิร์ตจากเกาหลี MBC, ซี๊ด อะวอร์ด และ ไนท์ เอ็นเตอร์เทน อะวอร์ด และ ทั้งปีนี้คาดว่าจะมีอีเว้นท์ขนาดใหญ่ราว 10-15 อีเว้นท์ อย่าง การประกวดนางสาวไทย, คอนเสิร์ต JYJ , คอนเสิร์ต 2PM, เดอะ สตาร์, ซุปเปอร์ดีว่า เอเอฟ ปะทะ เดอะ สตาร์ เป็นต้น

ด้านนายธนวัฒน์ ยังกล่าวถึงผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมาย กสทช.ว่า ไม่น่าจะกระทบกับสัญญาสัมปทาน เนื่องจาก อสมท.มีสถานะเป็นบริษัทมหาชน และยังมีอายุสัมปทานเหลืออีกกว่า 10 ปีจากช่อง 3 และทรูวิชั่น ซึ่งเชื่อว่า อสมท.จะรักษารายได้ในส่วนนี้เอาไว้ได้ ส่วนการที่จะมีการเปิดประมูลคลื่นใหม่ภายใต้ กสทช. ทา งอสมท.ต้องมีความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลนื่องจากบริษัทมีกระแสเงินสดจำนวนมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ