ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังรายงานคาดการณ์ที่ว่า ยอดเกินดุลการค้าของจีนจะปรับตัวลดลงในปีนี้
ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นอังกฤษปิดลล 16.61 จุดหรือ 0.3% แตะที่ 5,973.78 จุด
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX พุ่งขึ้นแตะระดับกว่า 105 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากมีรายงานว่ากองกำลังสนับสนุนพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ได้ใช้เครื่องบินและอาวุธหนักโจมตีกลุ่มผู้ประท้วงที่ท่าเรือราส ลานอฟ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองทริโปลีประมาณ 611 กิโลเมตร
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบได้บดบังการคาดการณ์ของนายเฉิน เต๋อหมิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของจีนที่ว่า การนำเข้าของจีนมีแนวโน้มขยายตัวแซงหน้าการส่งออกในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าของจีนหดตัวลงในปีนี้ หลังจากที่ยอดเกินดุลการค้าเดือนม.ค.ของจีนหดตัวลง 53.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนม.ค. แตะระดับ 6.45 พันล้านดอลลาร์
หุ้นอินมาร์แซท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดาวเทียมรายใหญ่ของอังกฤษ ปิดร่วง 13% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบที่น้อยเกินคาด ขณะที่หุ้นสกายฟาร์มาปิดร่วง 13% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทแอสตราเซเนก้าจะยกเลิกการผลิตยา Pulmicort ซึ่งใช้รักษาโรคหืด โดยสกายฟาร์มาเป็นผู้พัฒนาสูตรยาให้กับแอสตราเซเนก้า
หุ้นอินเตอร์เทค ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทดสอบสินค้าสำหรับผู้บริโภค ปิดบวก 5% และหุ้นเฟรสนิลโล ซึ่งเป็นผู้ผลิตโลหะเงินรายใหญ่ของโลก ปิดบวก 1.6%