ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากดัชนีร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันก่อน
ดัชนี FTSE 100 ขยับขึ้น 0.98 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 5,974.76 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,911.00-5,999.93 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากรายงานว่า รมว.กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) กำลังพิจารณาเรื่องการจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือกันเรื่องการปรับเพิ่มเพดานการผลิตน้ำมัน เพื่อรองรับอุปทานตึงตัว เนื่องจากเหตุการณ์รุนแรงในลิเบียส่งผลให้ปริมาณการผลิตในลิเบียลดลงอย่างมาก
นักลงทุนได้เข้าซื้อหุ้นกลุ่มโทรคมนาคมเพราะเชื่อว่าเป็นหุ้นที่ปลอดภัย โดยหุ้นโวดาโฟนปิดพุ่งขึ้น 1.8% หุ้นบีที กรุ๊ป ปิดบวก 4%
หุ้นเคร์น เอนเนอร์จี ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่งของอังกฤษ ปิดบวก 0.5% หลังจากนักวิเคราะห์ของแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ “buy” จากระดับ “neutral”
แต่หุ้นอันโตฟากัสต้า ซึ่งเป็นบริษัทผลิตทองแดงของชิลี ปิดร่วง แม้บริษัทเปิดเผยกำไรปี 2553 เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.05 พันล้านดอลลาร์ จากปี 2552 ที่ระดับ 667.7 ล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางอังกฤษซึ่งจะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 9-10 มี.ค. หลังจากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ภายหลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของอังกฤษพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.0% ในเดือนมกราคม จากระดับ 3.7% ในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี และสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลอังกฤษกำหนดไว้ที่ 2%