นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.แอสเซท พลัส เปิดเผยว่า ในปี 54 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การจัดการ (AUM) เพิ่มขึ้นมาที่ 35,000 ล้านบาท จาก ณ สิ้นปี 53 อยู่ที่ 26,067 ล้านบาท และตั้งเป้ากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 15-20% จากทั้งธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะยังคงเน้นการจัดสรรพอร์ตของผู้ลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทน โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่เหมาะสมกับสภาวะการลงทุนในแต่ละช่วงเป็นหลัก และให้ความสำคัญกับประโยชน์ที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากผลิตภัณฑ์การลงทุนบนพื้นฐานของความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของผู้ลงทุน
ทั้งนี้ สถานการณ์เงินเฟ้อเป็นปัจจัยสำคัญในการลงทุนในปี 54 ที่อาจกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศในแถบเอเชียที่นำเข้าน้ำมัน เช่น ไทย ซึ่งอาจมีผลให้ต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันและต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ และส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตของธุรกิจ
ดังนั้น ในด้านการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการประเมินมูลค่าหุ้นในการคัดเลือกหลักทรัพย์ที่มีคุณภาพเข้ามาในพอร์ตการลงทุน โดยเน้นการบริหารกองทุนเชิงรุก และกำหนดเป้าหมายผลตอบแทน เพื่อให้การบริหารกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนได้ตามวัตถุประสงค์การลงทุน
บริษัทฯ คาดการณ์ว่าในปี 54 ตลาดหุ้นของประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น เป็นกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนจากมูลค่าของหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ที่ปรับลงมาอยู่ในระดับต่ำจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา และยังมีโอกาสให้อัตราผลตอบแทนในระดับสูงในภาวะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าขณะนี้ประเทศญี่ปุ่นจะได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ แต่คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะเป็นผลกระทบในระยะสั้น และตลาดหุ้นญี่ปุ่นน่าจะสามารถปรับตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ จากเม็ดเงินของรัฐบาลญี่ปุ่นที่อัดฉีดเข้าสู่ระบบเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ
“ระดับราคาหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดสหรัฐฯ ที่ลดลงมาอยู่ในระดับใกล้เคียงกับตลาดหุ้นของประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่อัตราการเติบโตของธุรกิจอยู่ในระดับสูง ทำให้นักวิเคราะห์ประเมินว่าโอกาสที่ราคาหุ้นจะปรับลดลงมาอีกมีค่อนข้างน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง" นางลดาวรรณ กล่าว
นางลดาวรรณ กล่าวอีกว่า ระหว่างวันที่ 19-27 เม.ย.บริษัทฯจะเสนอขาย กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ (ASP-STARS) กองทุนผสมต่างประเทศ ซึ่งมีลักษณะการทยอยสร้างผลตอบแทนคล้ายกับกองทุนกลุ่ม SMART ซึ่งเป็น Series กองทุนผสมในประเทศที่เสนอขายไปแล้ว 9 กองทุน และได้รับการตอบรับอย่างดีจากการที่กองทุนสามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติให้กับผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนจะเปิดเสนอขายครั้งเดียวในช่วงการเสนอขายครั้งแรก (IPO)
กองทุน ASP-STARS จะลงทุนในหุ้นบริษัทขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ประมาณ 20 บริษัท โดยเน้นบริษัทที่เป็นผู้นำธุรกิจและเป็นที่รู้จักทั่วโลก มีการเติบโตของธุรกิจในระดับสูง และมีราคาที่น่าลงทุนเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าตามปัจจัยพื้นฐาน โดยกองทุนมีความยืดหยุ่นในการจัดสัดส่วนการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ สูง ทั้งตราสารหนี้ ตราสารทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนจากจังหวะการลงทุนตามภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์การลงทุนในแต่ละช่วง
ทั้งนี้ กองทุนมีอายุโครงการ 2 ปี โดยเมื่อกองทุนมีการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ลงทุน โดยกำหนดเป้าหมายการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนปรับขึ้นผ่านระดับทุก 5% ของมูลค่าหน่วยลงทุนเริ่มแรก คือ 10.50 บาท, 11.00 บาท, 11.50 บาท ... เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้กับลูกค้าระหว่างการลงทุน และกองทุนมีการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน โดยการวิเคราะห์แนวโน้มการปรับตัวของอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อปรับสัดส่วนการป้องกันความเสี่ยงให้เหมาะสมในแต่ละช่วง