บมจ.ไรมอนแลนด์(RAIMON) ยอมรับว่ารายได้ในปี 54 คงจะทำได้ไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ 4 พันล้านบาท เนื่องจากรับผลกระทบมาตรฐานบัญชีใหม่ที่จะรับรู้รายได้เมื่อสร้างเสร็จและโอนเท่านั้น แต่ในปี 55 รายได้ของบริษัทจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการรับรู้รายได้โครงการ"เดอะ ริเวอร์"ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ ส่วนการล้างขาดทุนสะสมของบริษัทน่าจะดำเนินการได้ในปีหน้า จาก ณ สิ้นปี 53 มียอดขาดทุนสะสมอยู่ที่ 479 ล้านบาท
นายอูแบร์ วิริออท กรรมการผู้อำนวยการ RAIMON กล่าวว่า ปัจจุบันมีเพียง 2 โครงการที่บริษัทจะรับรู้รายได้ในปีนี้ คือ โครงการนอร์ธพอยท์ มูลค่าโครงการ 4.9 พันล้านบาท ขายได้แล้ว 75% และโครงการเดอะ ไฮ มูลค่า 1.2 พันล้านบาท ทั้ง 2 โครงการมีการโอนและรับรู้รายได้แล้ว 770 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ 1.4 พันล้านบาทหวังว่าจะสามารถขายได้หมด
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อว่ารายได้จะกลับมาโดดเด่นและเติบโตก้าวกระโดดในปี 55 โดยเฉพาะมาจากการรับรู้จากโครงการ "เดอะ ริเวอร์"ที่ปัจจุบันมียอดขาย 1 หมื่นล้านบาท จาก 1.49 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าปีจะแล้วเสร็จในปี 55 อีกทั้งยังมีโครงการ"เดอะนอร์ธพอยท์ พัทยา"เข้ามาเพิ่มสัดส่วนด้วย
และจากปัจจัยดังกล่าวจึงเชื่อว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้หมดปี 55 จากปีนี้ที่จะยังคงมีขาดทุนสะสมอยู่
"ยอมรับว่าการปรับเปลี่ยนมาตรฐานบัญชีกระทบกับเราแต่เราก็พยายามที่จะปิดความเสี่ยงให้ลดลงทั้งการเรียกเก็บเงินลูกค้า 40% ตรงนี้ถือว่าปิดความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง ประกอบกับพยายามเพิ่มความหลากหลายในการดำเนินธุรกิจเพื่อกระจายความเสี่ยงจากรายได้คอนโดฯเพียงอย่างเดียว แต่ในปีหน้าจะเห็นการเติบโตอย่างมีนัย"นายวีริออท กล่าว
นายอูแบร์ กล่าวว่า โครงการ"เดอะ ริเวอร์"ถือเป็นปัจจัยหลักในการช่วยการเติบโตของรายได้ เพราะมีขนาดใหญ่และเป็นส่วนสำคัญที่จะนำมาใช้ล้างขาดทุนสะสม โดยโครงการดังกล่าวบริษัทได้แบ่งพื้นที่ทำเป็นเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ด้านหน้า 3-4 พันตร.ม.ปัจจุบันมีผู้เช่า 80% คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนส.ค.และจะมีรายได้จากส่วนนี้อย่างน้อย 20-30 ล้านบาท/ปี ซึ่งปี้นี้คงรับรู้ฯน้อยมากเพราะเหลือเวลาไม่กี่เดิอน แต่เชื่อว่าโครงการนี้จะมีสัดส่วนรายได้จากค่าเช่าอย่างมีนัยสำคัญ 15-20% ใน 3-4 ปีข้างหน้า