ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารและเหมืองแร่ หลังจากรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนเม.ย. ซึ่งช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 56.79 จุด หรือ 0.96% แตะที่ 5,976.77 จุด หลังจากที่ปิดร่วงลงสองวันติดต่อกันจากแรงเทขาย
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยวานนี้ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 244,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2553 และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 186,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 221,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ออกมาสูงเกินคาดช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารและเหมืองแร่ที่ถูกเทขายหนักในสัปดาห์นี้
หุ้นทุกตัวในกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น นำโดยรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ที่พุ่งขึ้น 5.58% หลังจากธนาคารรายงานผลกำไรจากการดำเนินงานสูงขึ้นในไตรมาสแรกแตะ 1.05 พันล้านปอนด์ (1.7 พันล้านดอลลาร์) จากระดับ 882 ล้านปอนด์ในปีก่อนหน้า ขณะที่แผนกวาณิชธนกิจของธนาคารมีกำไรเพิ่มขึ้นสองเท่าแตะ 1.1 พันล้านปอนด์ และธุรกิจประกันทำกำไรได้เป็นครั้งแรกในรอบห้าไตรมาส
สำหรับหุ้นกลุ่มเหมืองแร่นั้น แองโกล อเมริกัน เป็นแกนนำบวก 3.8% เวดันตา รีซอร์สเซส บวก 3.3% และเอ็กซ์สตราตาเพิ่มขึ้น 2.3% หลังจากที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำ
หุ้นเคเบิล แอนด์ ไวร์เลส ทะยาน 6.21% ซึ่งเป็นหุ้นที่พุ่งสูงสุดของวานนี้