บลจ.บัวหลวง เสนอขายกองทุนเปิดบัวหลวงไชน่าทริกเกอร์ 15% ระหว่างวันที่ 9-18 พฤษภาคมนี้ เชื่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 12 ของจีนซึ่งส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม ส่งผลให้มีการกระจายรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะผลักดันให้การบริโภคภายในประเทศมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ปัจจุบันเป็นจังหวะน่าลงทุน เพราะตลาดหลักทรัพย์จีนรับรู้ปัจจัยลบจากการดำเนินมาตรการควบคุมภาวะเงินเฟ้อที่ผ่านมา นอกจากนี้ระดับดัชนีหลักทรัพย์อยู่ในระดับที่เหมาะสม นักวิเคราะห์ส่วนมากเชื่อ GDP จีนยังคงเติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 9 ในสองปีข้างหน้า
นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มจัดการกองทุน บลจ. บัวหลวง เปิดเผยว่า ปัจจุบัน GDP ของประเทศจีนปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็นอันดับสองของโลกรองจากประเทศสหรัฐอเมริกา โดย GDP เฉลี่ยระหว่างปี 2532 ถึงปี 2553 อยู่ที่ระดับร้อยละ 9.3 ต่อปี การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีนที่ผ่านมาเกิดจากแรงผลักดันของการส่งออก โดยในช่วงระหว่างปี 2543 ถึงปี 2551 ปริมาณการส่งออกของประเทศจีนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 20.5 ขณะที่ภาครัฐเองก็มีการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคคิดเป็นเม็ดเงินสูงถึงประมาณร้อยละ 40 ของ GDP ปัจจัยข้างต้นผลักดันให้รายได้ประชาชาติต่อหัวของคนจีนในช่วงระหว่างปี 2537—2552 เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 14
ตามที่ประเทศจีนจะเริ่มใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 12 ซึ่งจะส่งเสริมให้เกิดการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมซึ่งจากเดิมกระจุกตัวอยู่บริเวณเมืองท่าชายฝั่งเข้าสู่ภาคตะวันตกและภาคกลางของประเทศ ผลจากแผนดังกล่าวจะทำให้เกิดการขยายตัวของเขตเมืองเพิ่มขึ้น และส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายได้ อันนำมาสู่พลังการบริโภคที่เพิ่มขึ้น และจะเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศจีน โดยนักวิเคราะห์คาดว่า GDP ของประเทศจีนในปี 2554 อยู่ที่ประมาณร้อยละ 9.80 ปี 2555 อยู่ที่ร้อยละ 9.50
นายพีรพงศ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันน่าจะเป็นจังหวะการเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศจีน เนื่องจากดัชนีหลักทรัพย์ของประเทศจีนรับรู้ปัจจัยลบจากมาตรการคุมเข้มราคาอสังหาริมทรัพย์ และมาตรการทางการเงินในการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันค่า P/E จากการคำนวณ ณ วันที่ 13 เมษายน อยู่ที่ประมาณ 15.01 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยซึ่งคำนวณระหว่างวันที่ 13 เมษายน 2549 — 12 เมษายน 2554 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 20.55 เท่า โดยในช่วงเวลาเดียวกันค่า P/E ต่ำสุดอยู่ที่ระดับ 10.89 เท่า และสูงสุดอยู่ที่ระดับ 43.18 เท่า
กองทุนเปิดบัวหลวงไชน่าทริกเกอร์ 15% (ChinaTrigger) จะลงทุนในกองทุนรวม ETF ของ iShares ที่อ้างอิงดัชนี China Securities Index 300 (CSI-300) หรือดัชนีรายภาคอุตสาหกรรมของดัชนี CSI-300 เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มการเงิน และกลุ่มวัตถุดิบอุตสาหกรรม เป็นต้น โดยผู้จัดการกองทุนจะวิเคราะห์และหาโอกาสเลือกลงทุนในอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อมุ่งหวังสร้างผลตอบแทนให้ได้ตามเป้าหมาย 15% ภายใน 18 เดือน
กองทุนเปิดบัวหลวงไชน่าทริกเกอร์ 15% สามารถเลิกกองทุนได้ก่อน 18 เดือน หากสร้างผลตอบแทนได้ไม่น้อยกว่า 15% กองทุนเปิดบัวหลวงไชน่าทริกเกอร์ 15% นี้จะเสนอขายครั้งเดียว ระหว่างวันที่ 9-18 พฤษภาคมนี้ โดยมีมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท