บลจ.กรุงไทยออกกองทุนลงทุนหุ้น อายุ 8 เดือน คาดผลตอบแทน 8%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 10, 2011 13:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย เปิดเผยว่า บริษัทเสนอขายกองทุนเปิดกรุงไทย 8 เอ็ม 8% ทริกเกอร์ ฟันด์ 3 ในวันที่ 10-18 พฤษภาคม 2554 อายุโครงการประมาณ 8 เดือน มูลค่า 1,000 ล้านบาท เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท มีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะเน้นลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจสูง และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับระดับความเสี่ยง เงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารทางการเงิน และเงินฝาก และ/ หรือตราสารอื่นใด ตามที่คณะกรรมการก.ล.ต. กำหนด

ทั้งนี้ อาจจะเลิกกองทุนก่อนกำหนด หากเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ คือ เมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนตั้งแต่ 10.8000 บาทขึ้นไป เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน หรือเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 108 ของมูลค่าที่ตราไว้ (10 บาท ) และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสด หรือเทียบเท่าเงินสด ทั้งหมดในสกุลเงินบาท ณ วันทำการใด

นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปัจจุบันอยู่ที่ 1050-1070 จุด เป็นระดับดัชนีที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยพิจารณาจากค่า PER สำหรับกำไรสุทธิในปี 2554 อยู่ที่ระดับ12 เท่า ซึ่ง คาดว่า ดัชนีมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1200 จุด หรือ ที่ระดับ PER ประมาณ 13 เท่า ในช่วงที่เหลือของปี 2554 โดยมีอัตราผลตอบแทนที่เหลืออีกประมาณ 12-14% จากระดับดัชนี ในปัจจุบัน

ดังนั้น การปรับตัวลดลงของดัชนีในช่วงที่ผ่านมา จึงถือเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจาก ภาวะการลงทุนที่ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน ที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน เงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่คาดว่าจะยังคงไหลเข้าในตลาดหุ้นเอเชียมากกว่าตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรป เนื่องจากเศรษฐกิจเอเชีย ยังคงมีการเติบโตได้ดี อัตราเงินเฟ้อกำลังผ่านระดับสูงสุด ค่าเงินมีแนวโน้มแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยที่รัฐบาลในเอเชีย ไม่มีข้อจำกัดในการใช้จ่ายงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจเหมือนกับในสหรัฐและยุโรป ในขณะที่ฐานะทางการเงินทั้งภาครัฐและเอกชน อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งกว่าในอดีตมาก การลงทุนในช่วงเวลานี้จึงเป็นโอกาส และจังหวะที่ดี ในการสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหน่วย ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ